TNN online ตลาดหุ้นมะกัน-ยุโรปแกร่ง แนะลงทุน 3 หุ้นพื้นฐานเด่น

TNN ONLINE

Wealth

ตลาดหุ้นมะกัน-ยุโรปแกร่ง แนะลงทุน 3 หุ้นพื้นฐานเด่น

ตลาดหุ้นมะกัน-ยุโรปแกร่ง แนะลงทุน 3 หุ้นพื้นฐานเด่น

"วิริยะชัย"มองตลาดหุ้นมะกัน-ยุโรปน่าลงทุนแม้เผชิญโควิด ผลตอบแทนการลงทุนสูง แนะ 3 หุ้นพื้นฐานเด่นรับประโยชน์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจโลก

นายวิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์ Vice President Market Solution  Private Wealth Management ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า  ทิศทางการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป และการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักต่อการลงทุนในหุ้นต่อไป ถึงแม้ว่าข่าวร้ายและปัจจัยลบต่างๆจะมีมากขึ้น ไม่ว่าเป็น การกลับมาแพร่ระบาดของ COVID-19 สายพันธุ์ Delta อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาที่มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น รวมถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐหรือ FED อาจลดการทำ QE ลง (QE Tapering) ในช่วงปี 2022 


โดยเมื่อพิจารณาจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ คาดการณ์ว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 การเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศ Developed market น่าจะยังคงแข็งแกร่งต่อไป (Above-trend growth) เชื่อเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเหล่านี้กำลังสู่ช่วงกลางของวัฎจักรเศรษฐกิจ (Mid Cycle) ซึ่งผลตอบแทนของการลงทุนในหุ้นจะถูกขับเคลื่อนโดยการเติบโตของผลกำไรเป็นหลัก 


โดยมองว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้นในครึ่งหลังของปีนี้ จะต่ำลงกว่าช่วงครึ่งปีแรก และตลาดการลงทุนจะมีความผันผวนมากขึ้น กยุทธ์การลงทุนที่แนะ นำคือ การจัดพอร์ตการลงทุนให้ defensive มากขึ้น โดยเน้นการ selective buy หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมี pricing power ที่สูง ได้แก่


1. หุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรม Financial, Energy และ Healthcare 

2. หุ้นยุโรป โดยเฉพาะหุ้น large cap 

3. ตราสารหนี้จีน China Bond  


สำหรับสถานการณ์การระบาด COVID-19 ในไทยที่เข้าสู่ขั้นวิกฤติ เราให้น้ำหนัก Underweight หุ้นไทย และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ในไทยการระ บาดอย่างหนักของ COVID-19 สายพันธุ์ Delta รอบล่าสุดส่งผลไปถึงการประกาศ Lockdown  ทำให้เรามองว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มซบเซาหนักและยาวนานกว่า 


อย่างไรก็ตาม  มีความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจจะไม่ขยายตัวเลย ซึ่งสุดท้ายจะสะท้อนในการเติบโตของกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่แย่ลงในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ ทั้งนี้การ Lockdown รอบใหม่ ยังส่งผลโดยตรงต่อธุรกิจกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มห้างสรรพสิน

ค้า ค้าปลีก ที่รายได้ค่าจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก และการฟื้นตัวอาจต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี ในการกลับสู่สภาพปกติก่อนเกิด COVID 

ข่าวแนะนำ