หุ้นไทยยังไร้ปัจจัยใหม่ -DELTAยังดึงดัชนีหย่อน ปิดบวกได้ 2.36 จุด
หุ้นไทยปิดบวกได้เล็กน้อยที่ 2.36 จุด ที่ระดับ 1,574.37 จุด มูลค่าการซื้อขาย 80,445.35 ล้านบาท เหตุยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน
วันนี้ ( 16 ก.ค. 64 ) ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,574.37 จุด เพิ่มขึ้น 2.36 จุด (+0.15%) มูลค่าการซื้อขาย 80,445.35 ล้านบาท
โดยการซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,575.66 จุด และระดับต่ำสุด 1,567.17 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 792 หลักทรัพย์ ลดลง 799 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 508 หลักทรัพย์
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ คล้ายคลึงกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ทั้งในแดนบวก-ลบคละกัน เช่นเดียวกับตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ก็แกว่งไซด์เวย์ ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สแกว่งตัวอย่างไร้ทิศทาง เนื่องจากตลาดไม่มีประเด็นใหม่เข้ามา และเจอแรงถ่วงจากหุ้น DELTA ที่ถ่วงตลาดฯอยู่ราว 6 จุด มีเพียงหุ้นขนาดใหญ่กระจายตัวที่ช่วยประคองตลาดฯได้บ้าง
ทั้งนี้ ตลาดฯเป็นลักษณะของการเล่นเก็งกำไรหุ้นรายตัวตามปัจจัยเฉพาะตัว ในช่วงรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดก็ยังไม่น่าไว้วางใจ รวมถึงมีกระแสข่าวจะขยายพื้นที่ล็อกดาวน์ด้วยทำให้เป็นปัจจัยกดดันตลาดฯ
ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นักวิเคราะห์ คาดว่าตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และอาจจะมีการเลือกเล่นหุ้นเป็นรายตัวได้ พร้อมให้แนวรับหลักที่ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580-1,600 จุด โดยสัปดาห์หน้าให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรอดูผลประกอบการของกลุ่มแบงก์
นายสันติ ธนะนิรันดร์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.บัวหลวง หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3/64 คาดว่าจะมีการเคลื่อนไหวแกว่งตัว Sideways มากกว่าที่จะมีทิศทางขาขึ้นหรือขาลงชัดเจน เพราะแม้ว่าตลาดจะยังมีสภาพคล่องอยู่มาก แต่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจทำให้โอกาสในการเปิดประเทศล่าช้าออกไป ส่งผลให้ปัจจัยเรื่องการจัดหาและความพอเพียงของวัคซีนเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดทิศทางตลาด รวมถึงยังคงมีปัจจัยไม่แน่นอนทั้งภายในและจากต่างประเทศที่อาจเข้ามากระทบกับตลาดหุ้นได้อยู่
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่
1.GPSC มูลค่าการซื้อขาย 5,912.07 ล้านบาท ปิดที่ 79.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
2.GUNKUL มูลค่าการซื้อขาย 5,633.45 ล้านบาท ปิดที่ 4.84 บาท เพิ่มขึ้น 0.08 บาท
3.BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,972.22 ล้านบาท ปิดที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
4. RCL มูลค่าการซื้อขาย 1,911.01 ล้านบาท ปิดที่ 56.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.75 บาท
5.KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,783.93 ล้านบาท ปิดที่ 114.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
ติดตามข่าวสารการลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคลิก
