TNN online ครม.เห็นชอบจัดหาวัคซีนหลัก-วัคซีนทางเลือกหนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง 12.15 จุด

TNN ONLINE

Wealth

ครม.เห็นชอบจัดหาวัคซีนหลัก-วัคซีนทางเลือกหนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง 12.15 จุด

ครม.เห็นชอบจัดหาวัคซีนหลัก-วัคซีนทางเลือกหนุนหุ้นไทยปิดพุ่ง  12.15 จุด

ตลาดหุ้นไทย ปิดพุ่ง 12.15 จุด ดีกว่าภูมิภาค หลังผันผวนตลอดทั้งวัน ได้ปัจจัยหนุน ครม.เห็นชอบจัดหาวัคซีนซิโนแวก-ไฟเซอร์-โมเดอร์นา เป็นตัวหลัก-ทางเลือก

วันนี้ (6 ก.ค.64) หุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ  1,591.43 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 12.15 จุด (+0.77%) มูลค่าการซื้อขาย 69,485.37 ล้านบาท โดยที่การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุด 1,594.15 จุด และระดับต่ำสุด 1,585.34 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 865 หลักทรัพย์ ลดลง 699 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 462 หลักทรัพย์


บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนอิงทางบวกได้อยู่ โดยได้ช่วงเช้าได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน หลังจากที่กลุ่มโอเปกพลัสไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับกำลังการผลิตน้ำมัน ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน และในช่วงบ่ายได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มรับเหมาก่อสร้างหลังภาครัฐให้ความช่วยเหลือ และมีการคลายล็อกดาวน์บางส่วนสำหรับงานก่อสร้างที่จำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากการเปิดซองประมูลรถไฟฟ้าสายสีม่วงด้วย ซึ่งส่งผลให้หุ้นในกลุ่มวัสดุก่อสร้างก็ปรับตัวขึ้นได้ดี อีกทั้งหุ้นในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ก็ปรับตัวขึ้นมาด้วย Sentiment ตลาดโดยรวมจึงไม่ได้แย่


 นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังเห็นชอบการจัดหาซิโนแวก-ไฟเซอร์-โมเดอร์นาใช้เป็นวัคซีนหลัก และวัคซีนทางเลือก มากขึ้น ทำให้ช่วยประคอง Sentiment ตลาดฯได้ด้วย เพียงแต่เมื่อดัชนีฯปรับขึ้นมาใกล้ระดับ 1,600 จุด ก็เผชิญแรงขายทำกำไรออกมาระหว่างทาง


ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดบ้านเราวันนี้ถือว่าดูดีกว่าตลาดอื่นในเอเชีย ส่วนตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้เปิดในแดนลบกัน พร้อมให้ติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศต่อไป และความคืบหน้าของวัคซีนด้วย เพราะเป็นตัวแปรที่สำคัญต่อทิศทางตลาดฯ ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ก.ค.) นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตลาดฯคงจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยมีแนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด


สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่  

1.CBG     มูลค่าการซื้อขาย  3,078.12  ล้านบาท  ปิดที่ 149.50 บาท เพิ่มขึ้น  6.00 บาท

2.COTTO   มูลค่าการซื้อขาย  2,940.12  ล้านบาท  ปิดที่   3.12 บาท เพิ่มขึ้น  0.30 บาท

3.KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  1,857.36  ล้านบาท  ปิดที่ 118.00 บาท เพิ่มขึ้น  1.50 บาท

4.PTTEP   มูลค่าการซื้อขาย  1,853.02  ล้านบาท  ปิดที่ 121.50 บาท เพิ่มขึ้น  2.50 บาท

5.BANPU   มูลค่าการซื้อขาย  1,572.64  ล้านบาท  ปิดที่  13.60 บาท เพิ่มขึ้น  0.20 บาท

ข่าวแนะนำ