TNN online ผวาโควิดทุบหุ้นไทยร่วง! แนะปรับพอร์ตถือเงินสด 20% หุ้นตัวไหนจี๊ดโดนใจ

TNN ONLINE

Wealth

ผวาโควิดทุบหุ้นไทยร่วง! แนะปรับพอร์ตถือเงินสด 20% หุ้นตัวไหนจี๊ดโดนใจ

ผวาโควิดทุบหุ้นไทยร่วง!  แนะปรับพอร์ตถือเงินสด 20%  หุ้นตัวไหนจี๊ดโดนใจ

โบรกมองหุ้นไทยสัปดาห์หน้าเผชิญโควิดที่พุ่งไม่หยุดถ่วงดัชนีร่วงต่อ แนะปรับพอร์ตถือเงินสด 20% เน้น Selective มีปัจจัยบวกหนุน ประเมินกรอบเคลื่อนไหว 1,550-1,600 จุด เกาะติดผลประชุมโอเปกพลัส-รายงาน Fed Minutes

นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า(  5-9 ก.ค.)  เชื่อว่าตลอดทั้งสัปดาห์คงให้น้ำหนักปัจจัยสำคัญเรื่องเดิมที่กดดันตลาดในช่วงก่อนหน้าคือ  ยอดผู้ติดเชื้อ Covid-19 รายใหม่ (New Case) เห็นได้ว่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ยังทำ New High แตะเหนือ 6 พันรายในหลายจังหวัด  รวมถึงแนวโน้มผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น และกำลังเจ้าหน้าที่ให้บริการสาธารณสุขยังเป็นประเด็นที่ติดตามใกล้ชิด 


ทั้งนี้หากยอด Covid ปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้า คาดยังเป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้น และหุ้นเปิดเมือง  (Reopen)  โดยเฉพาะหุ้นที่ประกอบธุรกิจที่ได้รับผลกระทบในจังหวัดที่ Lockdown  ต่อ  โดยจังหวะการลงทุนหุ้นที่ถูกกดดันจากประเด็นเหล่านี้คาดว่าจะต้องให้สถานการณ์ Covid ทรงตัว และเห็นจุด Peak ประเมินน่าจะเป็นจังหวะที่กลับเข้าไปลงทุนหุนพื้นฐานดี ราคาปรับลงมาเยอะ    


สำหรับประเด็นต่างประเทศที่ต้องติดตาม  วันจันทร์  5 ก.ค.ติดตามผลประชุม OPEC ที่เลื่อนมาจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจาก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังการผลิต   3.16 ล้านบาร์เรลต่อวัน  ไม่เห็นด้วยนโยบายของกลุ่ม  ให้น้ำหนักว่าจะสามารถตกลงกันได้ และมีความชัดเจนในการตัดลดกำลังการผลิตของเดือน ส.ค. 64 เป็นต้นไปหรือไม่ 


หากออกมาในโทนยังไม่เพิ่มกำลังการผลิต หรือ เพิ่มการผลิตน้อยกว่าคาด หรือตกลงกันไม่ได้  คาดจะบวกต่อราคาน้ำมันดิบโลก อิง น้ำมัน Brent 

ล่าสุด แตะ 76 เหรียญฯ  จะแตะ New  High ในรอบ 2 ปี  แต่หากผลตรงข้าม คือ เพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าคาด จะเป็น Sentiment  ลบช่วงสั้นต่อราคาน้ำมันดิบ  โดยจะมีผลต่อการลงทุนหุ้นน้ำมัน   ASPS ประเมิน PTT (Buy: [email protected]) และ PTTEP (Buy: FV@B128) ซึ่งทั้ง 2 ตัวราคาหุ้นยัง Laggard ราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นมาแรงต่อเนื่องค่อนข้างมาก ยังคงคำแนะนำนทยอยสะสมลงทุน


นอกจากนี้วันพฤหัส 8  ก.ค. ติดตามรายงาน Fed Minutes ของการประชุม ให้น้ำหนักรายละเอียด Fed ส่งสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต  ล่าสุด วันศุกร์ที่แล้วดัชนีชี้นำที่ Fed ให้น้ำหนักซึ่งมีผลต่อทิศทางความเร็วการปรับนโยบายการเงิน คือ ภาคตลาดแรงงาน  เดือนล่าสุด ชะลอตัวช่วงสั้น สะท้อนจาก อัตราการว่างงานสหรัฐฯ มิ.ย. 64 อยู่ที่ 5.9% แย่กว่าคาดที่ 5.7% เพิ่มจากงวดก่อนที่ 5.8%  และค่าแรงต่อชั่วโมงสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.3% MoM แลน้อยกว่าคาดที่ 0.4% MoM  กดดันให้ Dollar อ่อนค่าในช่วงสั้น 


ส่วนเงินบาทชะลอการอ่อนค่าช่วงสั้น แต่ยังบริเวนณ 32 บาท  ASPS ประเมินประเด็น Fed จะยังกดดันตลาดหุ้นโลกและหุ้นไทยไปอีกระยะโดยรวมประเมินตลาดหุ้นไทย SET Index  ประเมินยังผันผวนสูง ยังคงคาดจะแกว่งในกรอบ 1,550-1,600 จุด  จากปัจจัยในประเทศ  Covid-19 เป็นหลัก  โดยยังไม่คาดหวังเงินจากต่างชาติไหลเข้า  เนื่องจากทิศทางเงินบาทแนวโน้มยังอยู่ในทิศทางอ่อนค่ายืนบริเวณ 32 บาท คาดชะลอ Flow ไหลเข้า แต่อีกทางยังดีและบวกต่อหุ้นส่งออก  


ด้านกลยุทธ์การลงทุนยังคงแนะนำ ถือเงินสด  20%  และเน้นสะสมลงทุน Selective หุ้นที่มีปัจจัยหนุนแบ่งเป็น Theme หลัก คือ 1.ได้ประโยชน์แนวโน้ม Bond Yields ปรับขึ้น อาทิ BLA([email protected]) ,  กลุ่มที่มี Earning Momentum อาทิ BDMS([email protected])  , TFG([email protected] , MCS([email protected])  , GPSC ([email protected])  กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ คือ  BJC ([email protected])


ผวาโควิดทุบหุ้นไทยร่วง!  แนะปรับพอร์ตถือเงินสด 20%  หุ้นตัวไหนจี๊ดโดนใจ

ข่าวแนะนำ