TNN online ส.อ.ท.หวั่นโควิดลามกระทบห่วงโซ่ผลิต ทุบส่งออกครึ่งปีหลังฟุบ

TNN ONLINE

Wealth

ส.อ.ท.หวั่นโควิดลามกระทบห่วงโซ่ผลิต ทุบส่งออกครึ่งปีหลังฟุบ

ส.อ.ท.หวั่นโควิดลามกระทบห่วงโซ่ผลิต  ทุบส่งออกครึ่งปีหลังฟุบ

"ส.อ.ท." วิตกตัวเลขผู้ติดเชื้อภายในประเทศที่พุ่งไม่หยุดกระทบห่วงโซ่การผลิตฉุดส่งออกไทยครึ่งปีหลัง ขณะที่โควิดสายพันธ์ใหม่ ทั้งเดลต้า เดลต้าพลัสกลับมาแพร่ระบาดหนักในต่างประเทศ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า   ตัวเลขโควิดที่พุ่งต่อเนื่องเฉลี่ยรายวัน 4,000 คนต่อวัน ทำให้ภาคเอกชนมีความกังวลใจ  และการระบาดในคลัสเตอร์โรงงานที่มีผู้ติดเชื้อสะสมกว่าหมื่นคนที่อาจกระทบต่อห่วงโซ่การผลิต  


ขณะที่ในต่างประเทศเริ่มมีการระบาดของสายพันธุ์ใหม่ เช่น เดลตา เดลตาพลัส ทำให้เริ่มกลับมาล็อกดาวน์บางส่วน เช่น ออสเตรเลีย แม้กระทั่งอิสราเอลเริ่มกลับมาบังคับให้สวมหน้ากากอนามัยอีกครั้ง  ดังนั้นคงต้องติดตามใกล้ชิด เพราะอาจกระทบต่ออัตราเติบโตการส่งออกให้ชะลอตัวได้ แม้ว่าในเดือน พ.ค. ส่งออกมีมูลค่า 23,057.91 ล้านเหรียญสหรัฐโต 41.59%   ซึ่งถือเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 11 ปี


ทั้งนี้หากพิจารณารายละเอียดพบว่าฐานของปีก่อนค่อนข้างต่ำเพราะทั่วโลกล็อกดาวน์ ประกอบกับที่ผ่านมาสต๊อกสินค้าโลกเริ่มหมดลงจึงสั่งของไว้ แต่หลังจากนี้ต้องติดตามหากมีการล็อกดาวน์แต่ละเมืองในต่างประเทศเพิ่มขึ้นความร้อนแรงของการส่งออกอาจชะลอลง คงจะต้องติดตามใกล้ชิด  คาดว่าจะเห็นภาพชัดเจนในไตรมาส 3 นี้ ขณะที่ไทยเองก็จะต้องระวังไม่ให้โควิด-19 ลาม กระทบห่วงโซ่การผลิตที่จะมีผลต่อการส่งออกของไทย


อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) คงเป้าหมายการเติบโตการส่งออกปี 2564 อยู่ที่ระดับ 5-7% แม้ว่าบางส่วนจะมีเป้าหมายมองการส่งออกที่จะเติบโตไปในระดับ 5-10%  เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังจำเป็นต้องติดตามต่อเนื่องเพราะเริ่มมีสายพันธุ์ใหม่ๆ เข้ามาอีกและการรับมือของไทยขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อก็ยังอยู่ในระดับสูง


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าล่าสุดรัฐบาลจะประกาศมาตรการคุมเข้มโควิด-19ในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล (นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร  และพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ซึ่งเป็นลักษณะกึ่งล็อกดาวน์ เช่น ห้ามนั่งกินในร้าน ปิดแคมป์คนงาน ห้างฯ เปิดได้ถึง 21.00 น. เริ่ม 28 มิ.ย.นี้


แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งติดตามคือการหนีออกต่างจังหวัดของแคมป์คนงานด้วย  เพราะเกรงว่าจะนำไปสู่การแพร่ระบาดที่กระจายวงกว้าง ดังนั้น หากสถานการณ์ไม่คลี่คลายหลังจากนี้วิธีดีสุดอาจจำเป็นต้องยกระดับไปสู่การล็อกดาวน์เต็มรูปแบบ


"รัฐบาลอยากจะสร้างความสมดุลระหว่างการดูแลด้านสาธารณสุข กับ ด้านเศรษฐกิจ แต่ขณะนี้เชื้อโรคค่อนข้างรุนแรง และผู้ติดเชื้อใหม่รายวันก็ยังอยู่ระดับสูงมาก แม้ว่าปัญหาการติดเชื้อจะมีมากใน แคมป์คนงานก่อสร้าง แต่หากพิจารณาก็ยังพบว่ามีการติดเชื้อในชุมชนแออัด คลัสเตอร์ต่างๆ อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งหากการควบคุมบางส่วนแล้วยังไม่ได้ผลสักพัก วิธีดีที่สุดอาจต้องล็อกดาวน์ทั้งหมดหรือไม่เพราะลักษณะกึ่งล็อกดาวน์ก็ทำให้ประชาชนไม่กล้าเดินทาง ความรู้สึกก็เหมือนล็อกดาวน์ไปแล้ว แต่ในเรื่องของการดูแลเยียวยารัฐก็คงจะต้องพิจารณาภาพรวม"



ข่าวแนะนำ