TNN online ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง-กนง.หั่นคาดการณ์ศก.ลง กดดันหุ้นไทยปิดลบ 7.15 จุด

TNN ONLINE

Wealth

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง-กนง.หั่นคาดการณ์ศก.ลง กดดันหุ้นไทยปิดลบ 7.15 จุด

ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง-กนง.หั่นคาดการณ์ศก.ลง กดดันหุ้นไทยปิดลบ 7.15 จุด

หุ้นไทยปิดวันนี้ ปรับตัวลดลง 7.15 จุด ที่ 1,592.08 จุด หลังศบค.รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่ง -กนง.หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 64 ลงเหลือขยายตัวแค่ 1.8%

วันนี้( 23 มิ.ย.64)  ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,592.08 จุดลดลง 7.15 จุด หรือ 0.45 % ด้วยมูลค่าซื้อขาย77,735.03 ล้านบาทส่วนตลาดเอ็มเอไอปิดที่ 502.92 จุดลดลง 4.27 จุด หรือ 0.84% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 7,396.67 ล้านบาท โดยที่บรรยากาศหุ้นไทยผันผวนในแดนบวกและลบ โดยมีประเด็นสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศกลับมาเป็นตัวแปรกดดันตลาด หลังจาก ที่ศบค.รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิดมากถึง 51 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มจากปกติ ค่อนข้างมาก ล่าสุดมีแพทย์บางท่านเสนอให้สั่งล็อกดาวน์ 7 วัน โดยเฉพาะพื้นที่ใน กทม. เบื้องต้นอยู่ระหว่างการพิจารณา


บล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวได้แค่ 1.8% และปี 65 อาจขยายตัวลดลงเหลือ 3.9% สะท้อนการฟื้นตัวชะลอลง และยังคาดการณ์ปีนี้ไทยพลิกขาดดุลบัญชีเดินสะพัดราว 1.5 พันล้านดอลลาร์ จากเดิมคาดว่าจะเกินดุล 1.2 พันล้านดอลลาร์


โดย กนง.ยังกังวลการท่องเที่ยวฟื้นได้ช้ากว่าคาด จึงปรับลดประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติลงเหลือ 7 แสนคนในปีนี้ จากเดิมคาดว่าอยู่ที่ 3 ล้านคน เป็นผลจากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดในประเทศยังสูง และการฉีดวัคซีนต่ำกว่าเป้าหมาย อีกทั้งยังมีแรงกดดันจากการชุมนุมทางการเมืองในวันพรุ่งนี้ด้วย ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด


ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดในกลุ่ม TIP ติดลบ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอินเดียติดลบจากสถานการณ์โควิดยังรุนแรง ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้แกว่ง Sideway Down ราว 0.3-0.4% ส่วนแนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) นายกรภัทร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ ให้แนวรับ 1,580-1,567 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600-1,610 จุด  


บล.เคทีบีเอสที (ประเทศไทย)กล่าวว่า ช่วงที่เหลือของเดือน มิ.ย.นี้ คาดว่าจะเป็นช่วงทยอยประกาศใบอนุญาตโรงงานสกัดกัญชงของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นในกลุ่มดังกล่าว จากนั้นช่วงถัดไปเป็นการใช้สารสกัดซีบีดีทำให้เริ่มเห็นผลิตภัณฑ์ที่ผสมกัญชงและผสมสารสกัดซีบีดีเริ่มวางจำหน่ายในตลาดเร็วที่สุด คือช่วงปลายไตรมาส4 หรือไตรมาส1 ต้นปีหน้า ทั้งนี้หุ้นที่น่าจะได้ประโยชน์จากข่าวนี้ คือหุ้นที่มีความพร้อมในการผลิตแล้ว โดยบริษัทที่พร้อมในการใช้เมล็ดกัญชงและน้ำมันเมล็ดกัญชงในอาหารและเครื่องดื่ม


สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่  

1.  RATCH   มูลค่าการซื้อขาย  4,549.56  ล้านบาท  ปิดที่  47.00 บาท ลดลง   4.75 บาท

2.  RCL     มูลค่าการซื้อขาย  3,695.22  ล้านบาท  ปิดที่  51.50 บาท ลดลง   3.00 บาท

3.  GUNKUL  มูลค่าการซื้อขาย  3,341.36  ล้านบาท  ปิดที่   4.92 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

4.  KBANK   มูลค่าการซื้อขาย  1,517.60  ล้านบาท  ปิดที่ 120.00 บาท ลดลง   1.00 บาท

5.  PTT     มูลค่าการซื้อขาย  1,256.13  ล้านบาท  ปิดที่  40.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

ข่าวแนะนำ