TNN online PJW แตกไลน์โมเดลใหม่ ลุยตลาดกลุ่ม Medical ปั้นรายได้ 3 ปี แตะพันล้าน

TNN ONLINE

Wealth

PJW แตกไลน์โมเดลใหม่ ลุยตลาดกลุ่ม Medical ปั้นรายได้ 3 ปี แตะพันล้าน

PJW แตกไลน์โมเดลใหม่ ลุยตลาดกลุ่ม Medical ปั้นรายได้ 3 ปี แตะพันล้าน

PJW เดินเกมรุกต่อจิ๊กซอว์ธุรกิจแตกไลน์โมเดลใหม่ ดันNew S-curve สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมลุยตลาดผลิตภัณฑ์กลุ่ม Medical ปั้นรายได้ 3 ปี แตะพันล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ทั้งปีโต 5 -10%

วันนี้( 23 มิ.ย.64) นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก จำกัด (มหาชน) หรือ PJW ผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวดและฝาและชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯเดินหน้าปรับกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจ โดยมุ่งสู่การต่อยอดในการสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้บริษัทฯมีอัตราการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต  ล่าสุดได้แตกไลน์ธุรกิจขยายการลงทุนทางด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์กลุ่ม Medical เครื่องมือทางการแพทย์จากพลาสติกใช้แล้วทิ้ง อาทิ ไซริงค์พลาสติก, วาล์ว สายน้ำเกลือ, เข็มฉีดยา รวมถึงเครื่องมือแพทย์อื่นๆ เพื่อสร้างการเติบโตรอบใหม่ (New S-curve) ให้กับบริษัทฯในอนาคต โดยบริษัทฯได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนมาต่อเนื่อง ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากมองว่าตลาดในอุตสาหกรรมดังกล่าว มีมาร์จิ้นและแนวโน้มการเติบโตสูง โดยจะเห็นได้จากอัตราการเติบโตเฉลี่ย 10-15 % ต่อปี จากมูลค่าตลาดในประเทศไทยที่เป็นหลักหลายหมื่นล้านบาท  


ส่วนงบการลงทุนในการซื้อเครื่องจักรใหม่ รวมถึงการปรับปรุงพื้นที่โซนการผลิต Medical นั้น บริษัทฯ จะนำเสนอกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาให้ความเห็นและอนุมัติในการประชุมคณะกรรมการต่อไป ทั้งนี้หากแผนการพิจารณามีความชัดเจน บริษัทฯ ก็สามารถดำเนินการผลิตและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 1/2565 ส่งผลให้ในขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเร่งวางแผนทำการตลาดในการเตรียมนำเข้าผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าวมาจำหน่ายให้ทันภายในไตรมาส4/2564 เพื่อทำการตลาด ในเบื้องต้น ก่อนที่จะผลิตและจำหน่ายในเชิงรุกช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า โดยบริษัทฯ จะเน้นเจาะกลุ่มโรงพยาบาล และ ร้านเวชภัณฑ์ ในประเทศเป็นหลัก ทำให้ช่วงครึ่งปีหลังบริษัทฯจะเริ่มมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเข้ามา และจะมีรายได้จากการผลิตและจำหน่ายเข้ามาชัดเจน ตั้งแต่ไตรมาส 1/2565 เป็นต้นไป 


ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าในปี 2565 จะรับรู้รายจากธุรกิจดังกล่าวเข้ามากว่า 300 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท ในปี 2567 เนื่องจากบริษัทฯจะรุกตลาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น นอกเหนือจากตลาดในประเทศ โดยการเติบโตของกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะสอดรับกับนโยบายที่ประเทศไทยจะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของประเทศในภูมิภาค (Medical Hub) ในอนาคต


นอกจากนี้ บริษัทฯยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ ทุ่นลอยน้ำ เพื่อรองรับการลงทุนโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนน้ำ (Floating Solar) โดยจะเริ่มผลิตและจำหน่ายในปี 2565 เนื่องจากมองว่าผลิตภัณฑ์นี้ มีความต้องการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดวิกฤติการณ์โลกร้อนในช่วงที่ผ่านมา 


ดังนั้นภาพรวมธุรกิจปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 5 -10% จากทิศทางการฟื้นตัวของทุกกลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ คือ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นพลาสติก ธุรกิจบรรจุภัณฑ์พลาสติก และธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มคลี่คลาย ส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในครึ่งปีหลังปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับบริษัทฯ มีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ทำให้สามารถลดภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายในปีนี้ได้อย่างชัดเจน  


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 24 มิถุนายน 2564 บริษัทฯ จัดประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขอพิจารณาอนุมัติการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่1 (PJW-W1) จำนวนไม่เกิน 191.35 ล้านหน่วย  เพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า 3 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ อายุ 3  ปี มีราคาใช้สิทธิแปลงสภาพที่ 3 บาทต่อหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ PJW-W1 โดยเม็ดเงินที่ได้จากการแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญครั้งนี้ เป็นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน  เพื่อรองรับการขยายกิจการการลงทุนใหม่ๆ ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทฯในอนาคต ในการนำไปเป็นเงินทุนในการขยายและต่อยอดการลงทุนของบริษัทฯสำหรับการขยายและต่อยอดในธุรกิจ New S-curve  


ข่าวแนะนำ