โบรกแนะช้อนหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศเติมพอร์ตช่วงดัชนีพักฐาน

TNN ONLINE

WEALTH

โบรกแนะช้อนหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศเติมพอร์ตช่วงดัชนีพักฐาน

โบรกแนะช้อนหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศเติมพอร์ตช่วงดัชนีพักฐาน

โบรกมองหุ้นไทยปรับฐานจากจิตวิทยาเชิงลบในต่างประเทศ หวังปัจจัยภายในประเทศพยุงดัชนีไม่ให้ร่วงลึก แนะสะสมหุ้นอิงเศรษฐกิจในประเทศ ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,570-1,610 จุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.คันทรี่กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด พบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐหรือบอนด์ยีลด์อายุ 10 ปี 20 ปี และ 30 ปี ปรับตัวลดลงอย่างมีนัยยะ ขณะที่บอนด์ยีลด์ระยะสั้นปรับขึ้น การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ระยะสั้น เชื่อว่าเป็นการปรับตามนโยบายดอกเบี้ยของ FED แต่การปรับลงของอายุยาวเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความคาดหวังเงินเฟ้อของตลาดรวมถึงมุมมองด้านเศรษฐกิจของตลาดในอนาคตที่เป็นลบ


ซึ่งสอดคล้องกับความคาดหวังเงินเฟ้อสหรัฐ 10 ปีจากนี้ที่ปรับตัวลงอย่างมีนัย ดังนั้นกลุ่มที่เป็นตัวป้องกันเงินเฟ้ออย่างพวก Commodity มีโอกาสที่จะเห็นการปรับฐานได้ สอดคล้องกับราคา Commodity หลายตัวที่เริ่มปรับฐานลงมา อาทิ กากถั่วเหลือง ทองคำ ทองแดง อย่างไรก็ตามจะเป็นบวกกับหุ้นที่มีต้นทุน เป็น Commodity อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ (HANA,KCE) เลี้ยงสัตว์ (CPF ,GFPT, TFG)


ปัจจัยในประเทศความคืบหน้าของการเปิดประเทศยังคงเข้ามาต่อเนื่องเมื่อวานนี้นายกรัฐมนตรีได้โพสต์ข้อความลง FB ใจความว่าการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาได้โดยไม่มีเงื่อน ไขยุ่งยากจนเกินไปในช่วง ต.ค. จะยังคงดำเนินต่อไปรวมไปถึงทาง กทม. ได้อนุญาตให้ร้านสะดวกซื้อใน กทม. กลับมาเปิดได้ 24 ชั่วโมง


ส่วนร้านอาหารให้รับประทานได้ถึง 23.00 น. แต่ยังห้ามดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับมาตรการทาง กทม. มองเป็นบวกต่อ BJC, CPALL, CRC โดยเฉพาะ CPALL ที่มีสาขา 7-11 กรุงเทพฯและปริ มณฑลคิดเป็นสัดส่วน 44% ของสาขาทั้งหมด ดังนั้นจากทั้งหมดเราประเมินว่า SET อาจมีจังหวะของการปรับฐานจากจิตวิทยาลบต่างประเทศ แต่เชื่อไม่ลึกมาก เพราะในประเทศมีปัจจัยบวก


สำหรับสัปดาห์นี้ติดตามการประชุม กนง. และวันเดียวกัน (23 มิ.ย.) จะมีตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของเดือน พ.ค. สำหรับการประชุม กนง. เชื่อที่ประชุมคงดอกเบี้ยนโยบายแต่แนะติดตามมุมมองเศรษฐกิจ ส่วนตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ Bloomberg มูลค่าส่งออก +35%YoY นำเข้า +54%YoY หากดีกว่าคาดจะเป็นบวกกับตลาด


กลยุทธ์การลงทุนเพิ่มความระมัดระวังต่อกลุ่ม Commodity แต่มองหุ้นได้ประโยชน์ อาทิ อิเล็กทรอนิกส์ (DELTA, HANA ,KCE เลี้ยงสัตว์ (CPF, GFPT ,TFG) ส่วนจังหวะการปรับฐานของดัชนีให้มองเป็นโอกาสสะสมกลุ่ม Domestic Play อาทิ ค้าปลีก (BJC, CRC, CPALL, HMPRO) รถไฟฟ้า (BTS ,BEM) ธนาคาร (KBANK) สื่อนอกบ้าน (PLANB, VGI) ศูนย์การค้า (CPN) ตามปัจจัยบวกจากการทยอยเปิดเมืองช่วงครึ่งปีหลัง ประเมินกรอบดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,570-1,610 จุด


อย่างไรก็ตาม หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ CPALL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 67 บาท) มีปัจจัยบวกจากการที่ กทม. ประกาศให้ร้านสะดวกซื้อกลับมาเปิดได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งบริษัทจะได้ประโยชน์โดยตรงจากการที่มีสา กทม.และปริมณฑลคิดเป็นสัดส่วนถึง 44% ของสาขาทั้งหมด ขณะที่ราคาหุ้นที่ปรับฐานลงมา 12.5% จากจุดสูงสุดก่อนหน้าเชื่อรับปัจจัยลบไปหมดแล้วจากนี้แนะรอการฟื้นตัว


ปิดท้ายหุ้นเด่นวันนี้คือ MEGA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 43 บาท) คาดผลประกอบการ 2Q21 เติบโต YoY จากการขยายตลาดไปยังพม่า เวียดนาม และแอฟริกา ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันค่อนข้างถูก ซื้อขายเพียง 23.5x Trailing PE ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีที่ 26.7x


ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง