เช็กเลย ! 16 หุ้นเด่นน่าช้อป รับอานิสงส์เปิดเมือง-ยิ่งใช้ยิ่งได้- ส่งออกบูม
โบรกมองหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งไซด์เวย์ราคาสินค้าโภคภัณฑ์กดดัน หลังตลาดแพนิกเฟดขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น 2 ครั้งในปี 66 ฉุดเงินทุนไหลออกหุ้นไทย 17-18 มิ.ย.5,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรปร่วงระนาว คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,600-1,630 จุด แนะลุงทุนหุ้นรับอานิสงส์เปิดเมือง-ยิ่งใช้ยิ่งได้-ส่งออกบูม
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ ( 21- 25 มิ.ย.) ประเมินว่า SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัว Side way ในกรอบ 1,600 – 1,635 จุด โดยเชื่อว่ายังมีแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกจากประเด็นต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้วจากกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ Fed ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น 2 ครั้งในปี 2566 ทำให้ Flow ต่างชาติ ช่วง 17-18 มิ.ย. ไหลออกรวมกัน 5 พันล้านบาท
นอกจากนี้วันศุกร์ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นต่างประเทศ สหรัฐ, ยุโรป ปรับฐานลงแรงราว 1.5-1.8% และ Dollar มีแนวโน้มแข็งค่ามากสุด นับตั้งแต่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา คาดว่าจะกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกือบทุกชนิด ปรับลงต่อ โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบ ยังกดดันหุ้นพลังงาน น้ำมัน ฉุดตลาดหุ้นไทย
สำหรับประเด็นสำคัญที่ให้น้ำหนักตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดูเหมือนว่าจะยังขาดปัจจัยหนุนบวกหนุนตลาดหุ้นใหม่ โดยเน้นติดตามข้อมูลดังนี้ 1. วันจันทร์ 21 มิ.ย. ในประเทศเป็นเรื่องการส่งมอบวัคซีน COVID-19 ล็อตใหญ่ล็อตหนึ่ง AstraZeneca จำนวน 3.5 ล้านโดส 1.5 ล้านโดส และ Sinovac 2 ล้านโดส ซึ่งตอกย้ำความเชื่อมั่นประชาชนจะได้ฉีดวัคซีนตามแผน และมีผลต่อการเปิดประเทศ 120 วัน โดยประเมินเป็นบวกกับหุ้นเปิดเมือง Reopen เปิดประเทศ ต่อ กลุ่มขนส่ง อาทิ BEM ([email protected]) กลุ่มสื่อ VGI ([email protected])
ทั้งนี้ในวันเดียวรัฐจะเปิดรับให้ประชาชนลงทะเบียนวันแรก มาตรการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” คือมาตรการสำหรับผู้มีรายได้กลาง –บน ซื้อสินค้ากับร้านค้าที่จดทะเบียน VAT, ร้านในห้าง จะได้ E voucher คืนสูงสุด 7 พันบาท มาตรการจะเริ่ม 1 ก.ค เป็นต้นไป โดยรวมถือว่าเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น กลุ่มค้าปลีก อาทิ หุ้นร้านขายอุปกรณ์มือถือ อาทิ SPVI ([email protected]) BJC ([email protected]) CPALL ([email protected])
2. วันที่ 23 มิ.ย. ติดตามยอด ส่งออก เดือน พ.ค. Consensus คาด 9.6%yoy หากออกมาดีกว่าคาด ประเมินเป็น Sentiment บวกหุ้นส่งออก และทิศทางแนวโน้มเงินบาทที่ยังจะอยู่ในอ่อนค่าที่ระดับ 31.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 1 เดือน นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ (Wtd) อ่อนค่าราว 1.2% ส่งผลดีต่อภาคส่งออก น่าจะทำให้เกิดการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มส่งออกต่อ อาทิ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ KCE ,DELTA, HANA , กลุ่มยานยนต์ (AH, SAT) กลุ่มเกษตรอาหาร (STA, STGT, NER, TFG, CPF) กลุ่มส่งออกเหล็ก MCS
3. เวลา 14.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. ติดตามผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำที่ 0.5% ตามเดิม และใช้อัตราดอกเบี้ยระดับดังกล่าวต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวล่าช้า ให้น้ำหนักไปที่ 1.ประมาณการ GDP Growth ไทยในปี 2564-2565 จะมีการปรับลดเท่าไหร่ หลังจากโควิดแพร่ระบาดรอบ 3 ยืดเยื้อ 2 แนวทางนโยบาย แก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ลดดอกเบี้ย-เติมสภาพคล่องในรอบนี้ หรือไม่อย่างไร คาดจะมีผลต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ กลุ่ม Bank และ กลุ่มเช่าซื้อ
