TNN online ธุรกิจรายเล็กทุนต่ำกว่า 1 ล้านเจ๊งมากสุด ก่อสร้างอาคารครองแชมป์

TNN ONLINE

Wealth

ธุรกิจรายเล็กทุนต่ำกว่า 1 ล้านเจ๊งมากสุด ก่อสร้างอาคารครองแชมป์

ธุรกิจรายเล็กทุนต่ำกว่า 1 ล้านเจ๊งมากสุด  ก่อสร้างอาคารครองแชมป์

พาณิชย์เผย ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเม.ย.ที่ผ่านมามีจำนวน 612 ราย ทุนจดทะเบียน 5,162 ล้านบาท รายเล็กเงินทุนต่ำกว่ำ 1 ล้านมากสุด ก่อสร้างอาคารทั่วไปแชมป์


นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เปิดเผยว่า   ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจำนวน 612 ราย โดยมีมูลค่า  ทุนจดทะเบียนจำนวน 5,162.68 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา  โดยประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 54 ราย คิดเป็น 9% รองลงมาคือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 42 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 25 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ 


 ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 399 ราย คิดเป็น 65.20% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1- 5  ล้านบาท จำนวน 169 ราย คิดเป็น 27.61% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 36 ราย คิดเป็น 5.88% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 8 ราย คิดเป็น 1.31% ตามลำดับ   


สำหรับ ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนเมษายนที่ผ่านมาพบว่า มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,972 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 20,697.64 ล้านบาท  โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 466 ราย คิดเป็น 8% รองลงมา คือ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 283 ราย คิดเป็น 5% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจในภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 185 ราย คิดเป็น 3% ตามลำดับ


ส่วนธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน  โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,477 ราย คิดเป็น 74.97% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,379 ราย คิดเป็น 23.09% ลำดับถัดไป คือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 105 ราย คิดเป็น 1.76% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 11 ราย คิดเป็น 0.18%     

  

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ เดือนเมษายนทั่วประเทศ จำนวน 795,160 ราย  มูลค่าทุน 19.47 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 194,760 ราย คิดเป็น 24.49% บริษัทจำกัด จำนวน 599,109 ราย คิดเป็น 75.35% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,291 ราย คิดเป็น 0.16%  


 ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน  ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 471,401 ราย คิดเป็น 59.28% รวมมูลค่าทุน 0.41 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.13% รองลงมา คือ ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 234,231 ราย คิดเป็น 29.46% รวมมูลค่าทุน 0.78 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.01% ช่วงถัดไปคือ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 73,305 ราย คิดเป็น 9.22% รวมมูลค่าทุน 1.99 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.26%  และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 16,223 ราย คิดเป็น 2.04% รวมมูลค่าทุน 16.29 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.60%  



สำหรับการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีจำนวน 34 ราย แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจจำนวน 15 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจจำนวน 19 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 6,722 ล้านบาท  นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ สิงคโปร์ จำนวน 6 ราย เงินลงทุน 78 ล้านบาทรองลงมา ได้แก่ ฮ่องกง จำนวน  5 ราย เงินลงทุน 3,126 ล้านบาท และญี่ปุ่น จำนวน 4 ราย เงินลงทุน 598 ล้านบาท  ขณะที่ข้อมูลในเดือนมกราคม – เมษายนพบว่า 

 คนต่างชาติได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 180 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 31,215 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ