ส่งออกเฮ! เงินบาทอ่อนยืนอันดับ 3 เทียบภูมิภาค

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้ากรอบการเคลื่อนไหว 31.20-31.50 บาทต่อดอล ลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยที่ติดตามคือติดตามข้อมูลสหรัฐฯ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค คำสั่งซื้อสินค้าคงทน จีดีพีไตรมาส 1 (รายงานครั้งที่ 2)รวมถึงการเคลื่อนไหวของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ, การคาดการณ์เงินเฟ้อและจังหวะการปรับลดมาตรการสนับสนุนเศรษฐกิจจาก  ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟด

สำหรับในประเทศ ปัจจัยชี้นำจะมาจากข้อมูลส่งออกนำเข้าเดือน เม.ย. ที่จะประกาศวันที่ 25 พ.ค.นี้ คาดว่าขยายตัวต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตลาดยังให้ความสนใจกับสถานการณ์การแพร่ระบาด การจัดหาและกระจายวัคซีนด้านภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายตั้งแต่วันที่ 5-20 พ.ค. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้น 2.54 หมื่นล้านบาท และพันธบัตรไทย 6.5 พันล้านบาท  โดยกระแสเงินทุนที่ไหลออกต่อเนื่องจำกัดการแข็งค่าของเงินบาท แม้ค่าเงินดอลลาร์ในตลาดโลกอ่อนลงในระยะนี้

"ปัจจัยที่สำคัญที่ติดตามคือตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯถ้าดีเกิดคาดจะทำให้บอนด์ยีลด์สหรัฐเร่งตัวขึ้น และดอลลาร์แข็งค่า จะมีน้ำหนักต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงิน โดยนักลงทุนมีแนวโน้มขายสิน ทรัพย์ตลาดเกิดใหม่ ความผันผวนสูงขึ้น และจะทำให้ค่าเงินเอเชียอ่อนค่า" 

 

อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาคตั้งแต่ 5 พ.ค.-21 พ.ค.พบว่า วอน-เกาหลีใต้อ่อนค่าสุด 1.33% รองลงมาคือริงกิต-มาเลเซีย 1.26 % บาท-ไทย 0.77% ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.03% ดอง - เวียดนามไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนสกุลเงินที่แข็งค่าคือ  รูปี-อินเดีย  1.51% หยวน-จีน 0.64% รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.47% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.44% ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.06%  โดยผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อรับมือความผันผวน