เปิด 4 ปัจจัยหนุนหุ้นไทยไปต่อหรือพักฐาน
โบรกมองตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าต้องเผชิญ 4 ปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศรุมเร้า คาดกรอบเคลื่อนไหวดัชนี 1,500- 1,570 จุด กลยุทธ์การลงทุนจะเป็นอย่างไร หุ้นตัวไหนน่าเก็บสะสมเติมพอร์ตและโตโดดเด่นตามไปดูกันเลย
นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยตลอดสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 17-21 พ.ค.นั้น ประเด็นที่ให้น้ำหนักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย 4 ประเด็นหลักคือ1. วันจันทร์ 17 พ.ค. สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) จะประกาศตัวเลข GDP Growth ไทย งวด 1Q64 ฝ่ายวิจัย ASPS คาดหดตัวติดต่อกัน 5 ไตรมาส คือ คาดหดตัว 4%yoy (Consensus คาด หดตัว 5.3%) หลังจากต้นปีเดือน เม.ย. ไทยได้รับผลกระทบจากการ Lockdown และภาคท่องเที่ยวยังไม่ฟื้น หากตัวเลข GDP งวด 1Q64 ออกมาหดตัวมากกว่าที่คาด จะเป็นปัจจัยกดดันบรรยากาศการลงทุน SET index และหุ้นกลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ ในช่วงสั้นๆ
2. กระแสเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มเปิดเมือง Reopen น่าจะค่อยๆ เริ่มกลับมา หลังจากวันศุกร์ที่ประชุมศบค. มีข้อสรุปในเบื้องต้น อนุญาตให้พื้นที่สีแดงเข้ม 6 จังหวัด (กทม., ชลบุรี, เชียงใหม่,นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ) สามารถบริโภคอาหารในร้านได้ไม่เกิน 25% ของที่นั่ง ไม่เกิน 21.00 น. ฯ และในอนาคต ติดตามต่อ หากหากรัฐบาลผ่อนคลายการคุมเข้มมากขึ้น จะเป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มค้าปลีก เช่น CPALL MAKRO, CRC และ SPVI กลุ่มโรงแรม ERW , MINT กลุ่มร้านอาหาร M, AU
3. โค้งสุดท้ายของการประกาศงบบริษัทจดทะเบียนงวด 1Q64 ในบางบริษัท อาทิ CPN DRT GULF โดยรวมบริษัทส่วนใหญ่ทำผลประกอบการออกมาได้ดีกว่าคาด ทำให้นักวิเคราะห์มีโอกาสทยอยปรับประมาณการขึ้นถือว่าดีต่อภาพรวมตลาดหุ้นไทย
4. ติดตาม ตัวเลขการค้าของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ในเดือน เม.ย. ตลาดคาดจะขยายตัว หากออกมาดีกว่าที่คาดเชื่อว่าจะเป็น Sentimet บวกต่อตลาดหุ้นโลก และ ให้น้ำหนักรายงาน Fed minutes ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐ และสัญญาณนโยบายการเงินในสหรัฐ โดยรวมประเมินว่า SET Index จะแกว่งตัวในกรอบ 1,500- 1,570 จุด
ด้านกลยุทธ์การลงทุน แนะนำไปในหุ้นที่หุ้นที่มีแนวโน้มกำไรเติบโต yoy ได้ทุกไตรมาสต่อจากนี้คือ BDMS (FV @ 24.00) แม้กำไร 1Q64 อยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 47.9%yoy ต่ำกว่าคาด หลักๆ มาจากรายได้ผู้ป่วย Fly-in (15% ของรายได้) หดตัวสูง แต่เชื่อว่าผลประกอบการนับจาก 2Q64 ต่อเนื่องปี 2565 จะฟื้นตัวต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ในกทม.อีกทั้ง 2H64 จากความคืบหน้าวัคซีน หนุนผู้ป่วยไทยฟื้นตัวดีกว่าคาด ขณะที่ผู้ป่วย Fly-in คาดหวังทยอยฟื้นตัวบางส่วน คงคาดกำไรปกติปี 2564 โต 43%YoY ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside สูงเกิน 15%