TNN online หุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ ก่อนปิดบวก 1.35 จุด ที่ระดับ 1,549.48 จุด

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ ก่อนปิดบวก 1.35 จุด ที่ระดับ 1,549.48 จุด

หุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ ก่อนปิดบวก 1.35 จุด ที่ระดับ 1,549.48 จุด

หุ้นไทยปิดบวก 1.35 จุด ที่ระดับ 1,549.48 จุด หลังแกว่งตัวไซด์เวย์ โบรกฯมองสัปดาห์หน้าตลาดมี Upside จำกัด ให้แนวรับ 1,520-1,500 แนวต้าน 1,565-1,580 จุด

วันนี้ (14 พ.ค.) ดัชนี SET Index ปิดตลาด อยู่ที่ระดับ 1,549.48 จุด ปรับขึ้น +1.35 จุด หรือคิดเป็น +0.09% มีมูลค่าซื้อขายรวมทั้งสิ้น 97,359 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,532.29-1,558.86 จุด 

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 652 หลักทรัพย์ ลดลง 972 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 428 หลักทรัพย์

บรรยากาศหุ้นไทยในภาพรวมผันผวนในแดนบวกสลับลบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกที่โดดเด่น แม้ ศบค.แถลงผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มพื้นที่สีแดงโดยให้กลับมานั่งทานอาหารในร้านได้ แต่กำหนดเวลาไม่เกิน 21.00 น. อีกทั้งยังถูกกดดันจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันที่อยู่ในระดับสูง

โดยบล.โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในลักษณะพักฐาน คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งทั้งแดนบวก-ลบ โดยเฉพาะตลาดกลุ่ม TIP ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ขณะที่ตลาดยุโรปรีบาวด์ได้ราว 0.4% ยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยเดิมทั้งความกังวลเงินเฟ้อสหรัฐฯที่พุ่งขึ้น ทำให้วิตกการใช้นโยบายการเงินของสหรัฐฯอาจจะตึงขึ้น

 ส่วนบ้านเราบริษัทจดทะเบียนทยอยประกาศผลประกอบการเกือบครบแล้ว ต่อไปก็อาจจะมีการปรับลดประมาณการกลุ่ม Domestic plays จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว อีกทั้งยังเผชิญแรงกดดันจาก MSCI ปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทยด้วย

ขณะที่แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า คาดว่า ตลาดฯคงจะมี Upside จำกัด รับผลจากการแพร่ระบาดโควิด019 และ MSCI ปรับลดน้ำหนักลงทุนหุ้นไทย โดยให้แนวรับ 1,520-1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,565-1,580 จุด

พร้อมให้จับตามาตรการคุมการแพร่ระบาดโควิด-29 โซนพื้นที่สีแดงเข้มที่จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้า และติดตามผลประกอบการ บจ.ที่เหลือ ส่วนนอกประเทศให้ติดตามรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) วันที่ 27-28 เม.ย.ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันที่ 20 พ.ค.นี้

ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นไทยช่วงนี้ เนื่องจากยังมีความผันผวนจากแรงกดดันจากปัจจัยในตลาดต่างประเทศ หลังนักลงทุนกังวลภาวะเงินเฟ้อของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางดอกเบี้ย รวมถึงระยะสั้นยังเห็นสัญญาณการไหลออกของเงินทุนต่างชาติ ประกอบกับปัจจัยภายในประเทศยังมีกระแสข่าวลือบางอย่างเกิดขึ้น จึงทำให้บรรยากาศค่อนข้างเปราะบางและทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงได้รวดเร็ว


สำหรับ5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อ-ขายสูงสุดสุดประจำวันได้แก่

1. STGT : 5,999.40 ล้านบาท ราคา +2.00 บาท (+4.40%)

2. PTT : 3,007.15 ล้านบาท ราคา +0.25 บาท (+0.62%)

3. KBANK : 2,845.98 ล้านบาท ราคา -1.50 บาท (-1.22%)

4. SAWAD : 2,804.37 ล้านบาท ราคา -2.50 บาท (-3.38%)

5. CPALL : 2,403.46 ล้านบาท ราคา -0.75 บาท (-1.29%)

ข่าวแนะนำ