TNN online ดาวโจนส์ ปิดบวก 433.79 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส

TNN ONLINE

Wealth

ดาวโจนส์ ปิดบวก 433.79 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส

ดาวโจนส์ ปิดบวก 433.79 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส

ดาวโจนส์ ปิดที่ 34,021.45 จุด เพิ่มขึ้น 433.79 จุด รับข้อมูลแรงงานสดใส กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มต่างๆเป็นวงกว้าง

วันนี้ (14 พ.ค.64) ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (13 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานลดลงระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในเดือนมี.ค.2563 โดยข้อมูลแรงงานที่สดใสได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นกลุ่มต่างๆเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) ซึ่งเป็นหุ้นที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เช่นหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรม

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ ปิดที่ 34,021.45 จุด เพิ่มขึ้น 433.79 จุด หรือ +1.29%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,112.50 จุด เพิ่มขึ้น 49.46 จุด หรือ +1.22%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,124.99 จุด เพิ่มขึ้น 93.31 จุด หรือ +0.72

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 34,000 ราย สู่ระดับ 473,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 พ.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐเมื่อเดือนมี.ค.2563 และยังต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 490,000 ราย

นักวิเคราะห์จากบริษัทลีน็อกซ์ เวลธ์ แอดไวเซอร์สในรัฐนิวยอร์กกล่าวว่า นักลงทุนเข้าช้อนซื้อหุ้นที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่งในปีนี้ และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อก็อาจเป็นภาวะชั่วคราวเท่านั้น

นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นเมื่อนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวน้อยกว่าคาดและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนเม.ย. จะไม่ทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงแนวทางการสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยรองประธานเฟดเชื่อว่า การพุ่งขึ้นของตัวเลขเงินเฟ้อจะเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวเท่านั้น และเฟดจะใช้เวลาอีกระยะหนึ่งก่อนที่จะพิจารณาเรื่องการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงิน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ดีดตัวขึ้น 0.6% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.3% และเมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI พุ่งขึ้น 6.2% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่เริ่มมีการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวในปี 2553 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 3.8%

นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย., ราคานำเข้าและส่งออกเดือนเม.ย., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนพ.ค.

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง