หุ้นเด่นวันนี้ ! เน้นหุ้นผันผวนต่ำ-พื้นฐานแน่น

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า  ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาด SET แกว่ง Sideways เกาะติดตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ โดยกรอบแนวรับ 1,565 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด เน้นหุ้นแนวโน้มกำไรดี โดยหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ SINGER  คาดกำไรสุทธิ 1Q64 ที่ 140 ล้านบาท  (+13% Q0Q +62%YOY)  ยอดขายเติบโต ขึ้นต่อเนื่อง ผสานรายได้ดอกเบี้ย (+12% QOQ +50%YOY)  ตามพอร์ต C4C+18%QOQ คุณภาพ สินทรัพย์ดี และได้เข้าคำนวน MSCI  Global Small Cap ในรอบนี้ และมีโอกาสติด SET 100 เพิ่มเติมอีกด้วยป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 50 บาท

 

หุ้นเด่นต่อมาคือ BGRIM   รายงานกำไร 1Q64 ที่ 611 ล้านบาท  (+654%YOY, +6.1% QOQ ) แรงหนุนจากการใช้ไฟในนิคมสูงขึ้น และการ COD โครงการ Solar กัมพูชา โดย EBITDA Margin เพิ่มขึ้นเป็น 32%จาก 29% ใน 1Q63 จากราคาก๊าซที่ปรับตัวลดลง และราคาก๊าซยังลดลงต่อใน 2Q63 เป็นแรงบวกเพิ่มเติม เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 65 บาท

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า คาดดัชนีเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ 1,566-1,596 จุด โดยแรงซื้อยังมีมาจากหุ้นงบฯดี  แต่ระวังหุ้น DELTA ที่คาดอาจสร้างความผันผวนในทางลงต่อดัชนี หลังเริ่มโดนขายทำกำไร ด้านภาพรวมดัชนียังมี downside ด้วยปัจจัยกดดัน เงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้น กระแสเงินไหลออก bond yield ปรับขึ้น และการแพร่ระบาดในประเทศ ดังนั้น กลยุทธ์ อาศัยจังหวะดัชนีฟื้นตัว เน้นกระชับพอร์ต ลดหุ้นให้เหลือน้อยตัว

ส่วนการเข้าซื้อช่วงนี้ เน้น Selective Buy ใน theme หุ้นที่คาดจะ outperform SET ได้ คือ 1. defensive & valuation play ADVANC ,EA ,GULF ,PTT ,TU, CPF 2. earnings play คาดงบ 1Q64 เติบโตดี YoY และ outlook ผลประกอบการในช่วงที่เหลือแนวโน้มดี SFT, NYT, NER

หุ้นเด่นวันนี้แนะนำ PTT (ราคาเป้าหมาย 47.00 บาท) คาด 1Q64 กำไรโตเด่นทั้ง YoY และ QoQ ดีสุดนับตั้งแต่ 3Q61 หนุนจากราคานํ้ามันที่สูงขึ้นและความต้องการนํ้ามันสําเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ฟื้นตัวดีขึ้น และแนะนำ NYT คาดกำไร 1Q64 โต 24%YoY และจะเติบโตก้าวกระโดด YoY ใน 2Q-3Q64 หนุนจากยอดส่งออกรถยนต์ฟื้นตาม ศก. คู่ค้า

รายงานข่าวจากบล.เอเซียพลัสแจ้งว่า Top Picks วันนี้เลือก TMT ([email protected])   กำไร 1Q64คาดทำ New High อยู่ที่ 425 ล้านบาท (+145%QoQ,+244%YoY)  ขับเคลื่อนจากราคาเหล็กโลกฟื้นตัวสูง โดยราคาขายเหล็กช่วงครึ่งแรกของเดือน เม.ย. 2564 อยู่ที่ 27 บาท/กก เพิ่มขึ้น 4.5% จากสิ้นเดือนมีนาคม -ราคาเหล็กกระชากแรงเพราะ  เหล็กทั่วโลกขาดแคลน ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มราคาขายเหล็กปี 2564 ขึ้นเป็น 26.8 บาท/กก. ขณะที่ TMT กำไร 1Q64 คาดสูงเป็น 53.1% ของประมาณการทั้งปี ทำให้ประมาณการกำไรปี 2564 เพิ่มขึ้น 34.5% มาที่ 1,075 ล้านบาท  ประมาณการกำไรใหม่ ส่งผลให้ FV’64 เพิ่มขึ้นจาก 11 บาท เป็น 14.8 บาท อิง PER 12x Upside ราคาหุ้นเปิดกว้าง 15% และเงินปันผลคาดสูง 7% ต่อปี

ตามติดด้วย BLA ([email protected]) คาดกำไรสุทธิปี 2564 จะเพิ่มขึ้นถึง 109.6% yoy จากฐานกำไรที่ต่ำในปี 2563 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับการปรับปรุงนโยบายการตั้งสำรองค่าเผื่อความผันผวน (Provision for Adverse Deviation:PAD) เพิ่มขึ้นเป็น 5% ของสัญญาประกันชีวิตโดยฝ่ายวิจัยประเมินว่าทิศทาง Bond yield จะยังคงอยู่ในระดับสูง และผลการดำเนินงานของ BLA ได้ผ่านจุดต่ำสุดในปี 2563 ไปแล้ว ขณะที่ราคาหุ้นมีค่า PBV เพียง 0.9 เท่า

หุ้นเด่นวันนี้อีกตัวคือ  SCCC ([email protected])  คาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท โดยคาดหวัง Demand ปูนซีเมนต์จะกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งหลังมีสัญญาณที่ดีของวัคซีนป้องกัน COVID-19 นับจากนี้ และหลายประเทศเร่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน นอกจากนี้ปัญหาการออกใบอนุญาตก่อสร้างในนครโฮจิมินส์ซิตี้เริ่มผ่อนคลายลง และโมเมนตัมการใช้ปูนซีเมนต์ในศรีลังกาที่ขยายตัวต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งในปี 2562 เสร็จสิ้น ซึ่งถือว่าดีต่อผลประกอบการ SCCC ในปีนี้

รายงานข่าวจากบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แจ้งว่า การประกาศรายชื่อหุ้นเข้า-ออก ดัชนี MSCI รอบเดือน พ.ค.2564 ค่อนข้างมีสีสัน เพราะมีหุ้นไทยได้รับคัดเลือกเข้าหลายหลักทรัพย์ นอกเหนือจาก หุ้น SCGP ที่ตลาดคาดหมายไว้อยู่แล้วว่าจะได้เข้าดัชนี Global Standard รอบนี้ โดย CBG ได้เข้าดัชนี Global Standard ด้วยเช่นกัน (แต่ KBANK-F และ DTAC ถูกคัดออกจากดัชนี) ขณะที่ดัชนี Global Small Cap มีหุ้นเข้า 8 บริษัท ได้แก่ ACE, PSL, RCL, SCCC, SINGER, SYNEX, TTA และ TOA ทำให้มีสีสันของการเก็งกำไรวันนี้ ทั้งนี้ การปรับน้ำหนักจะเกิดขึ้น ณ ราคาปิดวันที่ 27 พ.ค. 

สำหรับปัจจัยสำคัญวันนี้ คือ การรายงานอัตราเงินเฟ้อ เดือน เม.ย. ของสหรัฐฯ ตลาดคาดเงินเฟ้อทั่วไป ขยายตัว 3.6% YoY หากออกมา มากกว่าคาด จะเป็นลบต่อการลงทุนในตลาดหุ้น เพราะตลาดจะกังวลว่า Fed จะปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวเร็วขึ้น โดยการประชุมครั้งถัดไปของ Fed จะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 มิ.ย. ซึ่งจะมีการเปิดเผยประมาณการเศรษฐกิจ, คาดการณ์เงินเฟ้อ และ Dot Plots ด้วยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของ SET INDEX บริเวณ 1,565/1,570-1,585 จุด กลยุทธ์การลงทุนเน้นตั้งรับ ลงซื้อ-ขึ้นขาย รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมา และขายเมื่อ SET INDEX เข้าใกล้ 1,600 จุด 

สำหรับหุ้นแนะนำวันนี้มี 4 ตัว นำโดย CBG ราคาเป้าหมาย 120 บาท  คาดว่าราคาหุ้นมีโอกาสฟื้นตัว หลังถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Global Standard ปรับน้ำหนักวันที่ 27 พ.ค. ถือว่าเป็น Positive Surprise เนื่องจากตลาดไม่ได้คาดว่า CBG จะถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนีในรอบนี้ ราคาหุ้นปรับตัวลง -18% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา เทียบกับ SET Index +5% จาก 1. ผลกระทบจาก COVID 2.เหตุการณ์ความไม่สงบในพม่า ดังนั้น เราประเมินว่าปัจจัยลบได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว และมีโอกาสดีดกลับหลังเช้านี้เป็น 1 ใน 2 หุ้นไทยที่ถูกเพิ่มเข้าสู่ดัชนี MSCI Global Standard ในรอบนี้ 

หุ้นเด่นวันนี้ถัดมาคือ III  ราคาเป้าหมาย 9.10 บาท รายงานกำไรปกติ 1Q64 ที่ 74 ล้านบาท เติบโต +240% YoY และ +31% QoQ ดีกว่าคาดถึง 48% และเป็นสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสของบริษัท จากการฟื้นตัวของรายได้ และอานิสงค์ของการลงทุนในบริษัทร่วมเริ่มออกดอกผล ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรใน 1Q64 เพิ่มขึ้นเป็น 53 ลบ. เติบโต +128% YoY และ +6% QoQ

กำไร 1Q64 คิดเป็น 44% ของคาดการณ์ทั้งปี 2564 ที่ 176 ลบ. (+36% YoY) เรามีโอกาสทบทวนประมาณการกำไรขึ้น หลังเข้าประชุมกับผู้บริหารในวันที่ 13 พ.ค. เราคาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากงบ 1Q64 ที่ออกมาดีกว่าคาดมาก 

CPF  ราคาเป้าหมาย 31 บาท รายงานกำไรปกติ 1Q64 ที่ 74  ล้านบาท เติบโต +240% YoY และ +31% QoQ ดีกว่าคาดถึง 48% และเป็นสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสของบริษัท จากการฟื้นตัวของรายได้ และอานิสงค์ของการลงทุนในบริษัทร่วมเริ่มออกดอกผล ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรใน 1Q64 เพิ่มขึ้นเป็น 53 ลบ. เติบโต +128% YoY และ +6% QoQ

กำไร 1Q64 คิดเป็น 44% ของคาดการณ์ทั้งปี 2564 ที่ 176 ลบ. (+36% YoY) เรามีโอกาสทบทวนประมาณการกำไรขึ้น หลังเข้าประชุมกับผู้บริหารในวันที่ 13 พ.ค. เราคาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากงบ 1Q64 ที่ออกมาดีกว่าคาดมาก 

หุ้นเด่นวันนี้ปิดท้าย PTG ราคาเป้าหมาย 21.70 บาท หลังจากรายงานกำไรปกติ 1Q64 ที่ 74 ล้านบาท  เติบโต +240% YoY และ +31% QoQ ดีกว่าคาดถึง 48% และเป็นสถิติสูงสุดใหม่รายไตรมาสของบริษัท จากการฟื้นตัวของรายได้ และอานิสงค์ของการลงทุนในบริษัทร่วมเริ่มออกดอกผล ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรใน 1Q64 เพิ่มขึ้นเป็น 53 ลบ. เติบโต +128% YoY และ +6% QoQ กำไร 1Q64 คิดเป็น 44% ของคาดการณ์ทั้งปี 2564 ที่ 176 ลบ. (+36% YoY) เรามีโอกาสทบทวนประมาณการกำไรขึ้น หลังเข้าประชุมกับผู้บริหารในวันที่ 13 พ.ค. เราคาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวกจากงบ 1Q64 ที่ออกมาดีกว่าคาดมาก