หุ้นเด่นวันนี้! ชูหุ้นงบไตรมาส 1 กำไรโตโดดเด่น-ราคาแลกการ์ด

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ย่อตัว จากการแพร่ระบาดโควิดที่กดดันหุ้นไทย ประเมินแนวรับ 1,540 จุด และแนวต้าน 1,560 จุด เน้นหุ้นที่คาดกำไร 1Q64 เด่น โดยหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ DCC คาดผลประกอบการ 1Q64 แนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ราว 460ล้านบาท (+27% QoQ +25%YoY) และภาพ ปี 64 คาดจะเติบโตต่อ แรงหนุนจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ปรับราคาขึ้นชดเชยต้นทุนก๊าชที่เพิ่มขึ้น เสริมด้วยรายได้ค่าเช่า และคาดอัตราปันผลที่สูงถึง 7.0% ต่อปี  เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.18 บาท

หุ้นเด่นถัดมาเป็น  GLOBAL  คาดทำไร 1064 เพิ่มขึ้นถึง 103%QoQ และ 24% YoY เนื่องจาก SSSG เติบโตสูง การขยายสายา และอัตรากำไรสูงขึ้น แนวโน้มกำไรยังแข็งแกร่งต่อใน 2Q64 โดย SSSG  เป็นบวกชัดเจนจากฐานต่ำในปีก่อนที่ มีการล็อกดาวน์ อีกทั้งราคาเหล็กยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 24 บาท

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า  SET ปรับตัวลงได้ต่อ ด้วยปัจจัยกดดันการแพร่ระบาดในประเทศที่จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันยังพุ่งขึ้นสูง จนทำให้ต้องมีการออกมาตรการที่เข้มงวดขึ้น สร้างความกังวลผลกระทบต่อเศรษฐกิจ โดย SET มีแนวรับถัดไปที่ 1,540 และ 1,530 จุด ส่วนกรอบบนถูกจำกัดที่แนวต้าน 1,560-1,570 จุด กลยุทธ์ พอร์ตลงทุนรอเข้าซื้อเฟสแรก 25% แถว 1,500 จุด  

 ส่วนพอร์ตเก็งกำไรให้ Selective Buy ในหุ้น 4 กลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ 1. หุ้น Defensive กลุ่มค้าปลีก (ที่ไม่เกี่ยวกับอาหาร) GLOBAL, HMPRO กลุ่ม ICT ,ADVANC 2. หุ้น EV/clean energy EA, KCE, GULF, BGRIM 3. หุ้น global play PTT, SCC 4. หุ้น earnings play กลุ่ม mid-small cap กำไร 1Q64 โตเด่น STARK, TWPC, TNP, WICE ,NER, SFT

สำหรับหุ้นเด่นแนะนำคือ  SCC (ราคาเป้าหมาย 475.00 บาท) คาดกำไร 1Q64 โตทั้ง YoY และ QoQ หนุนจากธุรกิจเคมิคอลส์ และคาดโตต่อเนื่องใน 2Q64 จาก spread เคมีภัณฑ์ที่กว้างขึ้น และปริมาณขายเพิ่มขึ้น คาดเป็นหนึ่งในหุ้นเป้าหมายเงินไหลเข้า ราคายัง laggard

 รายงานข่าวจากบล.เอเซียพลัส Top Picks เลือก AS([email protected]) ความน่าสนใจของแนวโน้มการเติบโตอุตสาหกรรมเกมออนไลน์โดยเฉพาะเกมบนมือถือ ซึ่งเป็นกลยุทธ์หลักของAS โดยในปีนี้มีแผนเปิดตัวเกมใหม่ 12 เกม แบ่งเป็นเกมบนมือถือจำนวน 8 เกม และเกมบน PC จำนวน 4 เกมมากกว่าปีก่อนๆ คาดว่าจะหนุนกำไรเติบโต 21% YOYอยู่ที่ 371 ล้านบาทขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ PER เพียง 9 เท่า ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ Peer ในต่างประเทศที่ซื้อขายเฉลี่ยที่ 23เท่า อีกทั้งราคาปัจจุบันยังให้ Dividend yield สูงกว่า5% ต่อปี

หุ้นเด่นถัดมาเป็น KSL ([email protected])  ราคาน้ำตาลดิบ ปรับเพิ่มขึ้นถึง 13.2% นับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. 64 ทำระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี มองเป็นผลบวกต่อผู้ประกอบการน้ำตาลไทยปี 2562/63 มีปัจจัยสนับสนุนจากธุรกิจน้ำตาลฟื้นตัวจากแนวโน้มราคาขายน้ำตาลฟื้นตัวถึง 27.8% yoy มาที่17 เซ็นต์/ปอนด์ และธุรกิจ BBGI (KSL ถือหุ้น 40%) ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะธุรกิจน้ำมัน B100 โดยคาดกำไร สุทธิงวด 2Q63/64 จะเติบโตต่อเนื่องจากงวด 1Q63/64จากธุรกิจน้ำตาลจะฟื้นตัวต่อเนื่อง จากแนวโน้มราคาขายน้ำตาลสูงขึ้น และธุรกิจไฟฟ้าก็ฟื้นตัวต่อเนื่องเช่นกันประเมินมูลค่าทางพื้นฐานที่ระดับ 3.70 บาท มี Upsideเกิน 5% ถือเป็นโอกาสสะสม

หุ้นเด่นปิดท้าย TMT([email protected]) กำไร 1Q64 TMT คาดทำ New High อยู่ที่ 425 ล้านบาท (+145%QoQ และ +244%YoY ) ขับเคลื่อนจากราคาเหล็กโลกฟื้นตัวสูง หนุนราคาเหล็กเฉลี่ย TMT งวด 1Q64  พุ่งแรง 21.8% QoQ มาที่ 24.8 บาท/กก. ราคาเหล็กกระชากแรงเพราะ Supply เหล็กทั่วโลกขาดแคลน ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มราคาขายเหล็กปีนี้ ขึ้นเป็น 26.8 บาท/กก. ขณะที่ TMT กำไร 1Q64 คาดสูงเป็น 53.1% ของประมาณการณ์ทั้งปี ทำให้ประมาณการกำไรปีนี้  เพิ่มขึ้น 34.5% มาที่ 1,075 ล้านบาทประมาณการณ์กำไรใหม่ ส่งผลให้ FV'64 เพิ่มขึ้นจาก 11บาท เป็น 14.8 บาท อิง PER 12x Upside ราคาหุ้นเปิดกว้าง 43.7% และเงินปันผลคาดสูง 8.5% ต่อปี