TNN online คนไทยลุ้นได้ใช้รถ EV ต่ำกว่าล้านบาท

TNN ONLINE

Wealth

คนไทยลุ้นได้ใช้รถ EV ต่ำกว่าล้านบาท

คนไทยลุ้นได้ใช้รถ EV ต่ำกว่าล้านบาท

ปัจจุบันกระแสเทคโนโลยียุคใหม่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ไม่เว้นแม้แต่ อุตสาหกรรมยานยนต์ที่กำลังถูกดิสรัปชัน จากยานยนต์ไฟฟ้า หรือ EV และกลายเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ รวมถึงกำลังค่อยๆเข้ามาแทนที่ยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสะท้อนได้จากความต้องการใช้รถยนต์EV ในตลาดโลกที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังคนหันมาใช้เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่าปี 2568 ราคารถอีวีจะเท่ากับรถยนต์สันดาปและในปี 2583 จำนวนอีวีจะมีมากกว่ารถยนต์สันดาป เพื่อตอบโจทย์การก้าวสู่การปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์  


สำหรับไทย มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมรถEV มาอย่างต่อเนื่อง แต่ในปัจจุบันจำนวนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในไทยยังมีจำนวนน้อยมาก อาจเป็นเพราะราคาที่สูงเกินไป เมื่อเทียบกับสมรรถนะและความสะดวกสบายที่ได้รับ แถมแบรนด์ที่นำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าก็ยังมีให้เลือกไม่มากนัก บวกกับทัศนะคติของคนทั่วไปที่มีความกังวล และไม่เข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเพียงพอ


การส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยเรียกได้ว่ายังอยู่ในระยะเริ่มต้น มีการจัดซื้อและใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าขนส่งสาธารณะเพื่อเป็นตัวอย่างนำร่อง ส่วนมาตรการทางด้านภาษีมีการส่งเสริมการลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าให้แก่ผู้ผลิต ทั้งการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ยกเว้นอากรการนำเข้าพวกชิ้นส่วนและอุปกรณ์ โดยผู้ผลิตต้องยื่นเข้ารับการส่งเสริมแก่ BOI และยังมีมาตรการในการลดภาษีสรรพาสามิต และทำให้ผู้บริโภคหาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาที่ถูกลง   


คนไทยลุ้นได้ใช้รถ EV ต่ำกว่าล้านบาท

 


ล่าสุดคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดEV ) วางเป้าการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ารวมทุกประเภทในปี 2568 รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,055,000 คัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์/รถปิกอัพ 402,000 คัน รถจักรยานยนต์ 622,000 คัน และรถบัส/รถบรรทุก 31,000 คัน



คนไทยลุ้นได้ใช้รถ EV ต่ำกว่าล้านบาท

ปัจจุบันค่ายรถยนต์หลายแห่งประกาศแผนเดินหน้าผลักดันรถยนต์อีวีในไทย เช่น  Audi, BMW, Mercedes-Benz, MG, Nissan, Porsche , Volvo และ Great Wall Motor


อย่างไรก็ดี ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขณะนี้เริ่มมีราคาถูกลง ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ถึง 1 ล้านบาทต้นๆ  เช่า ค่ายMG มีให้เลือกถึง 2 รุ่น ได้แก่ MG ZS ev  ที่ให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์ หรือ 150 แรงม้า  ราคาขาย 1,190,000 ล้านบาท 


และ MG EP ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้  วิ่งได้ไกลถึง 380 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง และมีมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 163 แรงม้า สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ 2 แบบ คือ quick charge 0-80% ในระยะเวลาประมาณ 40 นาที และ normal charge แบบ AC ชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0-100% 7 ชั่วโมง  ราคาเพียง 988,000 แสนบาท และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งค่ายรถยนต์EV ที่ได้รับความนิยม 


อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจะทำให้ความต้องการซื้อรถEV มากขึ้น และคาดว่าปี 2565 จะเกินหมื่นคันแน่นอน เห็นได้จากตัวเลขย้อนหลังไปเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ยานยนต์ไฟฟ้าที่เป็นรถยนต์นั่งไม่เกิน 7 คนจากปี 2561 มียอดขายแค่ 600 คัน ปี 2562 อยู่ที่ 802 คัน และปี 2563 มียอดขาย 2,079 คัน ซึ่งนับว่าโตแบบก้าวกระโดด 

คนไทยลุ้นได้ใช้รถ EV ต่ำกว่าล้านบาท


ปัจจัยเร่งให้เกิดการใช้EV มากขึ้น ไม่ใช่เพียงราคาหลักแสนเท่านั้น ต้องมีความพร้อมสถานีอัดประจุไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี ชาร์จจิ้ง ซึ่งการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการกำหนดพื้นที่ติดตั้งสถานีอัดประจุยานยนต์ไฟฟ้าให้เพียงพอ สำหรับการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า  โดยให้มีระยะห่างของแต่ละสถานีภายในรัศมีไม่เกิน 50-70 กิโลเมตร   


คนไทยลุ้นได้ใช้รถ EV ต่ำกว่าล้านบาท

ขณะที่สถานีชาร์จ ทั้ง 3 การไฟฟ้าและในเครือ ประกอบด้วย  การไฟฟ้านครหลวง MEA EV  จำนวน 13   สถานี การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทั้ง 4 ภาค ทั้งสิ้น 11 สถานี  ,การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และในเครือขณะนี้มี13 สถานี  และเตรียมขยายสถานีชร์จเพิ่มอีก 35 สถานี โดยเน้นไปที่หัวเมืองหลัก  เช่น  เชียงใหม่ ภูเก็ต นครราชสีมา 


อย่างไรก็ดี การเตรียมความพร้อมสถานีชาร์จ ที่มีอยู่ยังเป็นสัดส่วนที่น้อย  เนื่องจากการติดตั้งสถานีชาร์จยังมีต้นทุนที่สูง เฉลี่ย 3-5 ล้านบาทต่อสถานี และประชาชนยังไม่เข้าใจถึงการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากนัก  แต่ก็ถือว่า ทุกภาคส่วนเริ่มส่งเสริมให้ไทยเกิดการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น 


ดังนั้น อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย จึงต้องมีการวางแผนอย่างชัดเจน และยอมใช้งบประมาณมาก ขึ้นจากทางฝั่งภาครัฐ ไม่เพียงเป็นการลดการใช้น้ำมัน เพื่อช่วยโลกเท่านั้น แต่เพื่อปั้นอุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งจะนำมาสู่ความแข็งแกร่งของฐานการผลิตรถยนต์อันดับ11 ของโลก อย่างประเทศไทย ให้ก้าวไปสู่ TOP 10 ได้อีกครั้ง  

ข่าวแนะนำ