หุ้นเด่นวันนี้! ช้อนหุ้นรับอานิสงส์โควิดระลอกใหม่

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)  เปิดเผยว่า  ตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าย่อตัว จากผลกระทบโควิดที่มีความรุนแรงมากขึ้น ประเมิน

แนวรับ 1,565 จุด และแนวต้าน 1,585จุด เน้นหุ้นที่คาดกำไร 1064 เด่นโดยหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ SONIC คาดกำไรไตรมาส 1/64 ที่ 36 ล้านบาท เติบโต +28.0% QoQ และ +172.4%YoY ทำสถิติใหม่ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 2 โดยได้ประโยชน์จากขนาดและ volume ส่งออกที่หนาแน่น ซึ่งน่าเพิ่มโอกาสต่อการปรับประมาณการขึ้นในช่วงถัดไป ผสานค่าเงินบาทอ่อนค่า 4.6%VTD เป็นบวกต่อผู้ส่งออกเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 3.42 บาท

หุ้นเด่นถัดมาคือ  SCCC คาดกำไร 1064 จะเติบโตได้ดี 1,050ล้านบาท (+13%Q0Q, +27%YOY) ผลต่อเนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพ และต้นทุน รวมถึงความต้องการปูนซีเมนต์ในไทย และ ต่างประเทศพื้นตัว กระแสเงินสดสูง ปัจจุบันเทรดเพียง PE 12.6 เท่า และมีอัตราเงินปันผลตอบแทนต่อปีถึง 5.5%-6%เป้าหมายเซิงกลยุทธ์ 180 บาท

ด้านบล.เอเซียพลัสชู 2 หุ้นเด่น คือ  STGT ([email protected])  เนื่องจาก  ยอดผู้ติดเชื้อเร่งตัวขึ้นจากกลุ่มคนเมือง ตามสถานบันเทิงต่างๆ ซี่งถือเป็น Sentimen ลบต่อตลาดหุ้นไทย อย่างไรก็ตามคาดดีต่อ STGT ที่ทำธุรกิจถุงมือยาง ตามออร์เดอร์ที่ทะลักอย่างต่อเนื่อง คาดกำไรสุทธิปี 2564 อยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโตถึง 72.5% yoy จากแนวโน้มการปรับเพิ่มราคาขายถุงมือยางได้ 38.6% yoy จากปัญหาถุงมือยางขาดแคลน และคาดปริมาณขายถุงมือยางปี 2564 จะเพิ่มขึ้น 12.6% yoy ซึ่งก็หนุนให้แนวโน้มกำไรสุทธิงวด 1Q64 จะขึ้นทำ New high ต่อเนื่องประเมินมูลค่าทางพื้นฐานที่ระดับ 65 บาท มี Upside เกือบ 55% และ รอรับปันผลสูงกว่า 2 บาท/หุ้น(Div Yield 4.8%) ขึ้นเครื่องหมาย XD 12 เม.ย.64 นี้

หุ้นเด่นปิดท้ายที่   STEC ([email protected])   พิสูจน์ฝีมือที่แท้จริงในปีนี้ทิศทางธุรกิจสดใสจาก Backlog ปัจจุบันที่มีสูงถึง108,667 ล้านบาท รองรับการสร้างรายได้ในช่วง 3 ปีข้างหน้า พร้อมโอกาสที่เปิดกว้างจากงานประมูลภาครัฐจำนวนมากที่ทยอยออกมาในปีนี้ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายจะรับงานใหม่ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาทอัตรากำไรมีพัฒนาการดีขึ้นเรื่อยๆ โดยประเมิน Grossmargin ปีนี้จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 5% เทียบกับปี 2563 ที่ทำได้เพียง 4.4% และประเมินรายได้ก่อสร้างเติบโต 7%YoY สู่ระดับ 3.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งมี Backlog รองรับแล้วทั้งหมดพื้นฐานแข็งแกร่งทั้ง Backlog และฐานะการเงิน ขณะที่ราคาหุ้นซื้อขายบน Historical PBV-2SD ประเมิน FVอิง PER 24 เท่า ให้ราคาเหมาะสม 18 บาท

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า คาด SET เข้าสู่ช่วงปรับฐาน โดยมีปัจจัยกระตุ้นแรงขายทำกำไร หลังปรับขึ้นมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้ จากความกังวลการระบาดในประเทศระลอกใหม่ โดยวันนี้ติดตามศบค. พิจารณามาตรการควบคุม ด้านแนวโน้ม SET อาจมีการฟื้นตัวบ้าง แต่กรอบบนจำกัดที่ 1,585-1,592 จุด และมีแนวโน้มปรับลงได้ต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่ 1,570 และ 1,558 จุด ตามลำดับ กลยุทธ์ พอร์ตลงทุนหลักรอเข้าซื้อเฟสแรก 25% แถว 1,500 จุด ส่วนพอร์ตเก็งกำไรให้ Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

ทั้งนี้ประกอบด้วย 1. หุ้นกลุ่ม defensive ที่มีความผันผวนน้อยและ laggard เพื่อรับมือกับไตรมาสที่ 2 ซึ่งเป็นช่วง low season ของตลาดหุ้นไทย ADVANC, BBL 2. หุ้น mid-small cap แนวโน้มกำไร 1Q64 โตเด่น YoY หรือ turnaround STARK ,TWPC, SISB, TNP ,NER ,WICE 3.หุ้นกระแส EV, clean energy : EA ,KCE, GULF, BGRIM

สำหรับหุ้นเด่นวันนี้แนะนำ EA (ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 69.00 บาท) ได้อานิสงส์จากกระแส EV car หลังยอดจองจำนวนมาก คาดปีนี้ส่งมอบได้กว่า 1,000 คัน ขณะที่โรงงานแบตเตอรี่ 1GWh สร้างแล้วเสร็จ หนุนผลประกอบการปีนี้โตเด่น และแนะนำ KCE ยอดขาย semiconductor ยังเร่งตัว