TNN online ดาวโจนส์ ปิดบวก 373.98 จุด รับแรงหนุนการจ้างงาน-ภาคบริการแข็งแกร่ง

TNN ONLINE

Wealth

ดาวโจนส์ ปิดบวก 373.98 จุด รับแรงหนุนการจ้างงาน-ภาคบริการแข็งแกร่ง

ดาวโจนส์ ปิดบวก 373.98 จุด รับแรงหนุนการจ้างงาน-ภาคบริการแข็งแกร่ง

ดาวโจนส์ปิดที่ 33,527.19 จุด เพิ่มขึ้น 373.98 จุด ขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ เพิ่มความเชื่อมั่นการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

วันนี้ (6 เม.ย.64) ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งเพิ่มความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคลายความวิตกเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือนที่เข้าทดสอบในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,527.19 จุด เพิ่มขึ้น 373.98 จุด หรือ +1.13%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,077.91 จุด เพิ่มขึ้น 58.04 จุด หรือ +1.44%

และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,705.59 จุด เพิ่มขึ้น 225.49 จุด หรือ +1.67%

ดัชนีดาวโจนส์และ S&P500 ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานและภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยมีตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ พุ่งขึ้น 916,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2563 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 647,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราการว่างงาน ลดลงสู่ระดับ 6.0% ในเดือนมี.ค. จาก 6.2% ในเดือนก.พ.

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการของสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 63.7 ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 55.3 ในเดือนก.พ. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 59.0 โดยดัชนียังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

ดัชนีดาวโจนส์ยังได้แรงหนุนจากการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ประกาศแผนการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานวงเงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างงานจำนวนหลายล้านตำแหน่ง

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในวงกว้าง โดยข้อมูลล่าสุดบ่งชี้ว่า สหรัฐสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้แก่ประชาชนเฉลี่ยมากกว่า 3 ล้านคน/วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

บรรดานักลงทุนจับตารายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนมี.ค. ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันพุธนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 16-17 มี.ค. และส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนถึงปี 2566

ข่าวแนะนำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง