ผวาโควิดคลัสเตอร์ใหม่โผล่ใจกลางกรุง ฉุดหุ้นไทยดิ่ง

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,579.66 จุด ลบ 16.61 จุด หรือ 1.04  % โดยระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุดที่ระดับ1,601.24 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,575.56 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 81,506.36 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลการแพร่ระบาดของ COVID-19 คลัสเตอร์ใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ แพร่กระจายไปหลายจังหวัด จากเดิมที่คุมเข้มในโรงงาน และแรงงานต่างด้าว  แต่ตอนนี้เริ่มกระจายไปผับ บาร์ โรงเรียนทำให้คนตื่นตะหนกจึงแรงเทขายหุ้นออกมาบางส่วนกดดัชนีร่วง โดยเฉพาะหุ้นท่องเที่ยวและโรงแรมที่ปรับขึ้นมามาก YTD น่าจะ 20% สำหรับตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่วันนี้ปิดทำการ ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเปิดทำการคืนนี้ แต่เชื่อว่าน่าจะปรับตัวดีขึ้น

เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯดีเกินคาดจะเป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาด

ขณะที่มูลค่าการซื้อขายหุ้นไทยวันนี้พบว่า  สถาบันในประเทศขายสุทธิ 2,315 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,447.08 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 291.17ล้านบาท 

นักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 4,053.25 ล้านบาท ส่วนกรณีการเลื่อนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาไทย 1 ก.ค.นั้น คงไม่เลื่อน แต่ประเด็นอยู่ตรงที่ต่างชาติจะเดินทางมาไทยหรือไม่ เพราะตัวเลขยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดของไทยใกล้จะแซงออสเตรเลียแล้ว แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อระดับกลางจากการที่ไทยควบคุมการระบาดได้ดีและมีวัคซีนฉีดป้องกันโรคโควิด

นอกจากนี้นายอนุทิน ชาญวีรกุล รมว.สาธารณสุขออกมาระบุว่าการแพร่ระบาดรอบใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับสถานบันเทิงจะไม่มีการ lockdown รอบใหม่ เนื่องจากมีวัคซีนโควิดและใช้มาตรการควบคุมโรคเฉพาะจุด เพื่อไม่ให้กระทบประชาชน ซึ่งจะทำให้ตลาดพักฐานช่วงสั้น

อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นแข็งแกร่ง และ outperform ตลาดไปก่อน ซึ่งเป็นหุ้นสตรองในช่วงโควิด เช่น หุ้น STGTและเก็งกำไรหุ้นที่คาดว่างบไตรมาส 1/64 ออกมาดี เช่น  INTUCH ,IRPC, SCC , SPALI,LH, และPRM ประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันที่ 7 เม.ย.ที่ระดับ 1,550-1,570 จุด