TNN online เงินบาทอ่อน! เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแกร่ง

TNN ONLINE

Wealth

เงินบาทอ่อน! เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแกร่ง

เงินบาทอ่อน! เศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวแกร่ง

เงินบาทแนวโน้มอ่อนค่าหลังเศรษฐกิจสหรัฐเดินหน้าฟื้นตัวต่อเนื่อง "ไบเดน" เตรียมแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เกาะติดสถาบันการเงินขนาดใหญ่เครดิตสวิส-โนมูระ เสี่ยงขาดทุนจาก Archegos ผิดนัดชำระการเพิ่มวงประกัน

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  31.21 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 31.18 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 


ตลาดการเงินยังคงอยู่ในภาวะระมัดระวังตัว จากความกังวลผลกระทบต่อภาคการเงิน หลังจากที่สถาบันการเงินขนาดใหญ่ อย่าง Credit Suisse และ Nomura อาจขาดทุนมหาศาล จากการที่ เฮดจ์ฟันด์ Archegos ผิดนัดชำระการเพิ่มเงินประกัน (Margin Call) หลังหุ้นในพอร์ตของ Archegos ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง จนถูกบังคับ Force Sell ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และส่งผลกระทบต่อการเพิ่มเงินประกัน ซึ่งภาพดังกล่าว เริ่มมีความคล้ายคลึงกับ การล้มของเฮดจ์ฟันด์ LTCM ในปี 1998 ที่สุดท้ายส่งผลให้ตลาดปรับฐานหนักจากการล้มของ LTCM 


อย่างไรก็ดี ความกังวลดังกล่าวได้กดดันหุ้นในกลุ่มการเงินต่างปรับตัวลดลง แต่โดยรวมตลาดก็สามารถปรับตัวขึ้นได้ จากความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ตามแผนการเร่งแจกจ่ายวัคซีน รวมถึงแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่จากรัฐบาลประธานาธิบดี โจ ไบเดน โดยในฝั่งสหรัฐฯ ดัชนี Downjones พลิกกลับมาปิดบวก 0.3% ส่วน ดัชนี S&P500 ปิดลบเล็กน้อย 0.1% ขณะที่ ดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq ย่อตัวกว่า 0.6% หลังจากที่บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ยังคงปรับตัวขึ้นกว่า 5bps สู่ระดับ 1.71% จากความหวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจ 


ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนี STOXX50 ปิดบวกกว่า 0.5% แม้ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจยังได้รับผลกระทบจากการระบาดระลอกใหม่ แต่ผู้เล่นในตลาดยังกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังการอ่อนค่าลงของเงินยูโรมีโอกาสช่วยหนุนผลกำไรของบรรดาบริษัทยุโรปที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ส่งออก 


ในฝั่งตลาดค่าเงิน ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดค่าเงิน ยังคงเป็นแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ดูจะแข็งแกร่งกว่าภูมิภาคอื่นๆ หนุนให้เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุด ดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 92.94 จุด ส่งผลให้ เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.1768 ดอลลาร์ต่อยูโร เช่นเดียวกับ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ที่อ่อนค่าสู่ระดับ 109.8 เยนต่อดอลลาร์ 


สำหรับวันนี้ตลาดจะจับตามุมมองความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในสหรัฐฯ ต่อแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจผ่าน ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Conference Board Consumer Confidence) ในเดือนมีนาคม โดยตลาดมองว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 96.8 จุด จาก 91.3 จุด ในเดือนก่อน ในขณะที่ในฝั่งยุโรป แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่อาจสะดุดลงจากการระบาดระลอกใหม่ของ COVID-19 ซึ่งจะขยายเวลามาตรการ Lockdown กอปรกับการฉีดวัคซีนที่ล่าช้ากว่ากำหนด อาจกดดันให้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภค (Consumer Confidence) เดือนมีนาคมลดลง สู่ระดับ -14 จุด 


ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาทระยะสั้น ผันผวนไปตามเงินดอลลาร์ โดยในระหว่างวันเงินบาทก็สามารถอ่อนค่าลงได้ จากแรงซื้อสกุลเงินต่างประเทศของบริษัทต่างชาติญี่ปุ่นที่อาจทยอยเข้ามาซื้อเงินเยน ในช่วงปิดปีงบประมาณของบริษัทญี่ปุ่น นอกจากนี้ ควรจับตาฟันด์โฟลว์จากนักลงทุนต่างชาติ ที่อาจขายทำกำไรหุ้นไทย ตามการปรับพอร์ตการลงทุนในช่วงสิ้นไตรมาส 


อย่างไรก็ดี เงินบาทอาจไม่อ่อนค่าไปมาก เพราะฝั่งผู้ส่งออกต่างก็รอขายเงินดอลลาร์ที่ระดับใกล้ 31.15-31.20  บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ  ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้นำเข้าก็รอซื้อเงินดอลลาร์ในช่วงปลายเดือน ที่ระดับใกล้ 31.00 บาทต่อดอลลาร์ ทำให้ เงินบาทยังมีโอกาสทรงตัวเหนือระดับ 31.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงนี้กรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 31.10-31.25 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 

ข่าวแนะนำ