ต่างชาติเทขายหุ้นไทยกดดัชนีปิดร่วง

 นายฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,564.25 จุด ลบ 2.11  จุด หรือ 0.13 % ระหว่างวันซื้อขายสูงสุด 1,574.14    จุด และต่ำสุดที่ 1,562.03 จุด มูลค่าการซื้อขาย 93,389.31ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบสอดรับตลาดหุ้นในเอเชียที่ลงกันถ้วนหน้า ยกเว้นอินเดียที่ปิดบวก ประกอบกับแรงขายหุ้นในกลุ่ม อาหาร สื่อสาร และโรงไฟฟ้า เช่น CPF,TU,ADVANC , BGRIM,RATCH กดตลาดแม้ว่าจะมีแรงซื้อหุ้นในกลุ่มเปิดเมือง และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการไม่ปรับลดดอกเบี้ย เช่น BBL,CENTEL แต่ไม่สามารถพยุงตลาดไว้ได้ 

สำหรับในวันนี้สถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 529.84 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 108.01ล้านบาทนักลงทุนทั่วไปในประเทศซื้อสุทธิ 268.90 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ

906.76 ล้านบาท

ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามในวันพรุ่งนี้ 24 มี.ค.เป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) คาดว่ายังคงตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.50% เพื่อดูแลเศรษฐกิจส่งผลดีต่อหุ้นในกลุ่มแบงก์ และงานมอเตอร์โชว์ยาวเริ่ม 24 มี.ค.- 4 เม.ย.ส่งผลดีต่อหุ้น SAT,AH ส่วนต่างประเทศภาพ   การกล่าวแถลงการณ์ (Testify) ของนาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) และนาง Janet Yellen รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ต่อสภาคองเกรส โดยให้น้ำหนักว่าทั้ง 2 ท่านจะมีมุมมองต่อการดำเนินนโยบายการเงิน และการคลังของสหรัฐอย่างไร ภายหลังผลประชุม Fed ยังคงอัตราดอกเบี้ยต่ำที่ 0-0.25% และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญ รวมถึงติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้นโลกผันผวน 

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยต่ำ เช่น BBL ราคาเป้าหมาย 154 บาทหุ้น CENTEL รับผลบวกจากมาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ราคาเป้าหมาย 40  บาท และหุ้น MAJOR  ราคาเป้าหมาย  24 บาท ซึ่งเป็นหุ้นเปิดเมือง ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวการลงทุนในวันพรุ่งนี้แนวรับที่ 1,560 จุด แนวต้านที่ 1,585 จุด