โบรกคัดหุ้นเด่นเสิร์ฟนักลงทุน หลังเฟดตรึงดอกเบี้ย-คิวอี

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า คาดดัชนีฟื้นตัวได้ ด้วย Sentiment เชิงบวกตลาดหุ้นสหรัฐ หลังเฟดยังคงวงเงิน QE และตรึงดอกเบี้ยถึงปี 66 ขณะที่มีการปรับคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐขึ้น โดย SET มีแนวโน้มกลับขึ้นหากรอบบนบริเวณ 1,575-1,580 จุด อย่างไรก็ตาม ภาพรวมยังอยู่ในช่วงพักตัวออกด้านข้างในกรอบ 1,560-1,580 จุด กลยุทธ์ พอร์ตลงทุนหลักรอเข้าซื้อเฟสแรก 25% แถว 1,450-1,470 จุด ส่วนพอร์ตเก็งกำไรให้ Selective Buy หุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ

 

ทั้งนี้เน้น theme ดังนี้1. หุ้น Global Plays กลุ่มปิโตรเคมี PTTGC 2.หุ้น Reopening tier 2-3 BEM,HMPRO, BDMS และ 3 .หุ้นใน SET50 ที่ยัง laggard BAM รวมทั้ง Clean Energy อย่าง BGRIM, GULF ,GPSC

อย่างไรก็ตาม แนะนำ CPALL (ราคาเป้าหมาย 80.00 บาท) ยังคงได้แรงหนุนจากธีม reopening โดยคาดผลประกอบการจะกลับมาเติบโต YoY ตั้งแต่ 2Q64 จาก SSS ที่ทยอยฟื้นตัว และเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็นบวกเฉพาะตัว STARK, OR (กองทุนเข้าซื้อ) DOD (กระแสกัญชง)

ด้านบล.เอเซียพลัส  SPVI ([email protected])  เนื่องจากยอดขายผู้ผลิตหลักที่ชิ้นส่วนให้ Apple ในไต้หวันที่เดือน ม.ค. 64 เติบโต 35%yoy ยอดขายมือถือจากต่างประเทศในประเทศเป็น iPhone งวด ม.ค.-ก.พ. 64 127.6%yoy ขณะที่หากนับเทียบกับปี 2562 ที่ไม่มีผลกระทบ COVID ยังเห็นการเติบโตถึง 27.6%yoy  ขณะที่ไทยหากนับเทียบกับปี 2562 ที่ไม่มีผลกระทบ COVID ยังเห็นการเติบโตถึง 27.6%yoy เป็นบวกกับผู้ขายสินค้า Apple โดยเฉพาะ SPVIยอดขายสินค้า Apple ของ SPVI มีสัดส่วนยอดขายราว 90%

ฝ่ายวิจัยมองบวกต่อทิศทางดังกล่าวฝ่ายวิจัยปรับเพิ่ม growth ที่ใช้ประเมินมูลค่าหุ้นเป็น 2.5% จากเดิม 1% ได้ Fair value ใหม่ที่ 6.92 บาท  ยังมี Upside เปิดกว้างถือหุ้นที่ Undervalue อย่างมาก สะท้อนจาก PER’64 ที่ต่ำ 17.2 เท่า ขณะที่ผู้ประกอบธุรกิจคล้ายกัน COM7 มี P/E สูง 41.8 เท่า JMART 31 เท่า ส่วน CPW สูงถึง 25.3 เท่า ยืนยัน ซื้อTop Picks เลือก SPVI ([email protected]), 

ถ้ดมาเป็นหุ้น BBL ([email protected])   เข้าสู่เส้นทางของการฟื้นตัวที่แท้จริงธนาคารฯ มองสินเชื่อปี 2564 ขยายตัว 3% - 4% yoyขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL)คาดการณ์ลดลงมาที่ 2.2 หมื่นล้านบาท จาก 3.1 หมื่นล้านบาทในปี 2563 ถือว่าเข้าสู่เส้นทางของการฟื้นตัวที่แท้จริงสำหรับคุณภาพสินทรัพย์ ธนาคารฯ คาด NPL Ratioณ สิ้นปี 2564 จะอยู่ในกรอบไม่เกิน 4.5% จาก 3.9% ณสิ้นปี 2563 จากสภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังอยู่ในช่วงฟื้นตัวโดย ธ.พ. มี Coverage Ratio ณ สิ้นงวด 4Q63 ที่

181.6% สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 150%แนวโน้มกำไรปี 2564 ฟื้นตัวจากฐานต่ำปีก่อน ด้านราคาหุ้น BBL ยังคง Laggard SETBANK และหุ้นธพ.อื่นๆอยู่มากพอสมควร

CENTEL ([email protected]) ภาครัฐ ตั้งเป้าหมายเปิดประเทศ ภายใน ต.ค. 64 ภายหลังวัคซีน COVID-19 เริ่มกระจายในไทย หนุนต่อธุรกิจโรงแรมของ CENTEL ในไทย ขณะที่โรงแรมในมัลดีฟส์ มีพัฒนการที่ดี และเริ่มเห็นกำไรของโรงแรม 4 ดาว เนื่องจากเป็นประเทศที่ไม่มีการกักตัวนักท่องเที่ยว 14 วันธุรกิจร้านอาหาร มีแนวโน้มฟื้นตัวตามกำลังซื้อในประเทศ ที่จะค่อยๆ ดีขึ้น ตามการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติสัดส่วน IBD/E ต่ำสุดในกลุ่มฯ ที่ 1.12 เท่า ทำให้ความเสี่ยงด้านเงินทุนปลอดภัยกว่ากลุ่มฯ 

บล.เมย์แบงก์กิมเอ็ง(ประเทศไทย) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัว หลังธนาคารกลางสหรัฐหรือ FED คงดอกเบี้ยต่ำตามเดิม ประเมินแนวรับ 1,560 จุด และแนวต้าน 1,585 จุด เน้นหุ้นอิงเศรษฐกิจฟื้น โดยแนะนำ SPRC คาดแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง ผสานการเริ่มเปิดเมืองมากยิ่งขึ้น ส่งผลบวกต่อการใช้น้ำมันสูงขึ้น โดยหากพิจารณาจาก Gasoline Spread ใน

สัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่าแกว่งตัวขึ้นจาก 3.9 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลมาอยู่ที่  5.1 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  คาดส่งผลบวกต่อกลุ่มโรงกลั่นที่มีผลิตภัณฑ์เป็น Gasoline เช่น SPRC เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 10.0 บาท 

ตามติดด้วย KBANK แนวโน้มเศรษฐกิจโลกและไทยฟื้นตัวเร็วกว่าคาด ส่งผลให้การตั้งสำรองลดลง และ NIMผ่านพันจุดต่ำสุดในช่วงครึ่งปีหลัง ผสานปัจจัยบวกระยะสั้น Fed

ส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายต่อเนื่องหนุนกระแสเงินทุนไหลสู่หุ้นวัฎจักรเป็นบวกต่อกลุ่มรนาคารฯเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 160 บาท

.