ส่งออกหน้าบาน! เงินบาทนำโด่งอ่อนสุดในภูมิภาค

น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทในสัปดาห์หน้าคาดว่าเคลื่อนไหวในกรอบ 30.40-30.90  บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจัยชี้นำหลักอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)วันที่ 16-17 มี.ค. โดนหากมีการส่งสัญญาณใช้มาตรการเพิ่มเติม เพื่อชะลอการปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยีลด์) จะกดดันค่าเงินดอลลาร์ให้อ่อนลง และส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าได้ ในทางกลับกัน หากเฟดไม่แสดงท่าทีกังวลมากนักต่อตลาดบอนด์ เงินดอลลาร์จะได้แรงหนุนต่อเนื่อง

"การประชุมครั้งนี้มองว่าเฟดน่าจะแบ่งรับแบ่งสู้   เพราะที่ผ่านมาไม่ได้แสดงความกังวลต่อบอนด์ยีลด์ระยะยาวที่สูงขึ้นโดยการประชุมรอบนี้น่าจะเป็นเวทีหรือโอกาสในการประคองตลาดรอบใหม่ ถ้าไม่ทำอะไรเลย หุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงน่าจะปรับตัวลงแรง"

นอกจากนี้ยังมีผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี) วันที่ 18 มี.ค. และธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) วันที่ 19 มี.ค.ส่วนเงินทุนไหลเข้าตั้งแต่ 8-11 มี.ค.ที่ผ่านมาพบว่านักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1.5 พันล้านบาท แต่ขายสุทธิพันธบัตร 1.2 พันล้านบาท

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทย แนวโน้มสดใสขึ้นตามการค้าโลก แต่การฟื้นตัวยังไม่ทั่วถึงและใช้เวลา โดยเศรษฐกิจโลก ได้ปัจจัยหนุนจากวัคซีน มาตรการเปิดเมือง นโยบายการเงินและการคลังที่อัดฉีดเงินมหาศาลเข้าสู่ระบบ ส่วนการเมืองในประเทศต้องติดตามแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะเป็นอย่างไร

ด้านการเคลื่อนไหวของสกุลเงินในภูมิภาคตั้งแต่สิ้นเดือนก.พ.-12 มี.ค.ที่ผ่านมาพบว่าสกุลเงินที่อ่อนค่าสุดคือบาท-ไทย 1.74 %  รองลงมาคือริงกิต-มาเลเซีย 1.63 %  รูเปียห์-อินโดนีเซีย 1.01 % วอน- เกาหลีใต้ 0.72% ดอลลาร์-สิงคโปร์อ่อน 0.69%ดอง-เวียดนาม 0.17%  หยวน-จีน 0.13%     ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.11%   ยกเว้นรูปี-อินเดียแข็ง 0.75% เปโซ-ฟิลิปปินส์ 0.29%