TNN online ส่อง 3 ปัจจัยเลือกซื้อที่อยู่อาศัยยุคนิวนอร์มอล

TNN ONLINE

Wealth

ส่อง 3 ปัจจัยเลือกซื้อที่อยู่อาศัยยุคนิวนอร์มอล

ส่อง 3 ปัจจัยเลือกซื้อที่อยู่อาศัยยุคนิวนอร์มอล

"ประพันธ์ศักดิ์"เผยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยกเครื่องออกแบบก่อสร้างโครงการใหม่ หลังโควิดระบาด คำนึงถึง 3 ปัจจัยหลักพัฒนาที่อยู่อาศัย ยุคนิวนอร์มอลตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลุมพินี วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ LPN Wisdom ซึ่งบริษัทวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเครือบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์  เปิดเผยว่า  การออกแบบที่อยู่อาศัยในปี 64 เปลี่ยนไป หลังจากการแพร่ระบาดโควิดตั้งแต่ปี 62 ที่ลุกลามไปทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยและต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ประกอบกับไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุทำให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจในการซื้อบ้านพักอาศัยมากขึ้น


ทั้งนี้จากผลการสำรวจของ LPN Wisdom พบว่าปี  63 ที่ผ่านมา มีการเปิดตัวโครงการบ้านพักอาศัยในเขตกรุงเทพฯ-ปริมณฑล 44,001 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วนถึง 63% ของจำนวนโครงการที่เปิดขาย 70,126 ยูนิตสะท้อนความต้องการของผู้ซื้อที่ให้ความสนใจซื้อบ้านพักอาศัยมากกว่าคอนโดมิเนียมในช่วงที่ผ่านมา  



นอกจากนี้จากการวิจัยถึงแนวโน้มและทิศทางการออกแบบที่อยู่อาศัยในปีนี้พบว่า  มี 3 ปัจจัยที่สำคัญในการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อในปัจจุบันประกอบด้วย 1.การออกแบบพื้นที่ใช้สอยที่ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น 2.

ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยในการอยู่อาศัย3.การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การอยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้น 


สำหรับผลสำรวจพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยในปีนี้พบว่ากว่า 62% คนได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานจากสำนักงานมาทำงานที่บ้าน (Work From Home) มากขึ้น ทำให้การออกแบบที่อยู่อาศัยทั้งคอนโดมิเนียมและบ้านพักอาศัยต้องตอบโจทย์กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป กล่าวคือ คอนโดมิเนียมต้องมีการออกแบบพื้นที่เอนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย  เพื่อตอบโจทย์กับการใช้ชีวิตที่บ้านมากขึ้นทั้งพื้นที่ทำงาน ออกกำลังกาย และการทำงานอดิเรก พื้นที่รับ-ส่งพัสดุ เมื่อการสั่งซื้อของทางออนไลน์เพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับการออกแบบบ้านพักอาศัย ที่ต้องให้ความสำคัญกับพื้นที่อเนกประสงค์ภายในบ้านเพื่อรองรับกับการทำกิจกรรมต่างๆ  


รวมถึงการออกแบบพื้นที่ทั้งบ้านพักอาศัยและคอนโดมิเนียมที่ตอบโจทย์กับคนทุกวัย (Universal Design) มากขึ้นโดยเฉพาะการตอบโจทย์กับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศที่จะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ   เช่น การออกแบบที่ต้องมีห้องนอนผู้สูงอายุที่ต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานรถเข็น การใช้ประตูบานเลื่อนแทนประตูบานเปิดภายในห้องนอนและห้องน้ำ หรือการออกแบบบ้านที่ไม่มีการลดระดับภายในบ้าน รวมถึงการใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่จะต้องป้องกันหรือลดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นและช่วยส่งเสริมสุขภาวะที่ดี เช่น พื้นยางกันกระแทก ระบบไฟเปิด-ปิดอัตโนมัติ ราวจับติดผนังในห้องน้ำ เป็นต้น 


อย่างไรก็ตาม จากรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัวในปี 65 และในปี73 จะมีสัดส่วนประชากรสูงวัยเพิ่มขึ้นอยู่ที่  26.9 % ของประชากรทั้งประเทศ

 

ขณะเดียวกันจากการแพร่ระบาดของโควิด และปัญหามลภาวะทางอากาศอย่าง ฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้น ทำให้การออกแบบที่อยู่อาศัยทั้งบ้านพักอาศัยและคอนโดมิเนียมต้องให้ความสำคัญกับสุขอนามัย (Health) โดยคำนึงถึงระบบการไหลเวียนของอากาศภายในที่อยู่อาศัย ด้วยการนำเอานวัตกรรมการออกแบบที่ช่วยให้อากาศหมุนเวียน หรือระบบ Fresh Air Intake ที่จะช่วยเติมอากาศบริสุทธิ์เข้าไปด้านในอาคาร และไล่อากาศที่มีคุณภาพต่ำกว่าให้ออกมาด้านนอกเพื่อให้อากาศสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม เช่นเดียวกับการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและไม่มีสารที่ก่อให้เกิดมลพิษ(Toxic) ภายในที่อยู่อาศัย เป็นต้น 


สำหรับเทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัย (Smart Living Technology) เริ่มเข้ามามีบทบาทต่อการออกแบบที่อยู่อาศัยมากขึ้นโดยเฉพาะการอำนวยความสะดวกสบายในการอยู่อาศัย โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัล และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาใช้ในการดูแลที่อยู่อาศัย ภายใต้แนวคิดของ บ้านอัจฉริยะ (Smart Home)  เช่น การนำระบบตรวจจับความผิดปกติ (AI Sensor Technology) มาติดตั้งเพื่อตรวจจับความผิดปกติของระบบไฟฟ้า ประปา  เพื่อให้ง่ายต่อการบำรุงรักษา เป็นต้น 


การออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีที่ลดการสัมผัส (Touchless) เช่น การใช้ประตูบานเลื่อนเปิด-ปิดอัตโนมัติแทนประตูที่ใช้มือจับ หรือระบบตรวจจับใบหน้าแทนการสแกนนิ้ว เป็นต้น และการออกแบบเพื่อรองรับระบบรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของรถยนต์ในปัจจุบันและในอนาคต  


“การแพร่ระบาดของโควิด เป็นปัจจัยเร่งให้สิ่งที่เราคิดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกหลายปี มาเร็วขึ้น ทำให้การพัฒนาที่อยู่อาศัยในปีนี้ เป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่ออนาคต ที่ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อตอบโจทย์ของการอยู่อาศัยที่กำลังเปลี่ยนไปในอนาคตทั้งในเรื่องของ ฟังก์ชั่นการใช้งาน สุขอนามัย และเทคโนโลยี”


ข่าวแนะนำ