TNN online บาทแข็ง! นักลงทุนเบนเข็มซื้อสินทรัพย์เสี่ยง

TNN ONLINE

Wealth

บาทแข็ง! นักลงทุนเบนเข็มซื้อสินทรัพย์เสี่ยง

บาทแข็ง! นักลงทุนเบนเข็มซื้อสินทรัพย์เสี่ยง

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 30.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เหตุนักลงทุนกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังบอนด์ยีลด์ย่อตัวลงแตะระดับ 1.53%

นายพูน  พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  30.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 30.79 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ตลาดการเงินพลิกกลับมาเปิดรับความเสี่ยง หลังผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า หุ้นในกลุ่มเทคฯและหุ้นเติบโต ได้ปรับฐานจนระดับราคาเริ่มน่าสนใจมากขึ้น ทำให้ผู้เล่นในตลาดกล้าที่จะเข้ามาซื้อหุ้นในกลุ่มดังกล่าว (Buy on Dips)


ขณะเดียวกันภาพรวมตลาดการเงินก็ยังได้รับแรงหนุนจาก บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่ย่อตัวลงเกือบ 7bps สู่ระดับ 1.53%  การปรับตัวลงของยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ และแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงดังกล่าวของผู้เล่นในตลาดได้ส่งผลให้ ดัชนีหุ้นเทคฯของสหรัฐฯ Nasdaq พุ่งขึ้นกว่า 3.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 4เดือน ส่วน ดัชนีหุ้นโดยรวมอย่าง S&P500 ก็ปรับตัวขึ้น 1.4% ขณะที่ดัชนี Dowjones กลับปรับตัวขึ้นเพียง 0.1% เนื่องจากหุ้นในกลุ่มพลังงานและการเงินโดยรวมปรับตัวลดลง ส่วนในฝั่งยุโรป ดัชนีตลาดหุ้นยุโรป STOXX50 ก็ปรับตัวขึ้นกว่า 0.6% ตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด


บอนด์ยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ที่ย่อตัวลงกว่า 7bps ยังได้หนุนให้ ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นกลับมายืนเหนือระดับ 1,713 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อีกครั้ง นอกจากนี้ เมื่อยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ ย่อตัวลง และตลาดก็กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น เงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงตาม เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลงกว่า 0.6% สู่ระดับต่ำกว่า 92 จุด หนุนให้ เงินยูโร แข็งค่าขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1.19 ดอลลาร์ต่อยูโร และเงินเยนก็กลับมาแข็งค่าขึ้นราว 0.4% ใกล้ระดับ 108.6 เยนต่อดอลลาร์ 


สำหรับวันนี้ ตลาดจะติดตาม รายงานข้อมูลอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (CPI) ในฝั่งสหรัฐฯ โดยตลาดมองว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ รวมทั้ง ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นมากจากปีก่อนหน้า จะทำให้อัตราเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์ มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น สู่ระดับ 1.7% จาก 1.4% ในเดือนก่อน ทั้งนี้ ตลาดจะติดตามผลการประมูลพันธบัตรรัฐบาล 10ปี สหรัฐฯ วงเงินกว่า 38 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากผลการประมูลออกมาพบว่า ตลาดมีความต้องการบอนด์ 10ปี น้อยกว่าคาด และ แนวโน้มเงินเฟ้ออาจเร่งตัวขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ ภาพดังกล่าวอาจสร้างความกังวลให้กับตลาดการเงินและทำให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วได้อีกครั้ง ซึ่งการปรับตัวขึ้นของยีลด์ 10ปี สหรัฐฯ อาจส่งผลให้ตลาดยังสามารถกลับมาปิดรับความเสี่ยงได้ทุกเมื่อ 


สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท แม้ว่าแข็งค่าขึ้น ตามทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ แต่ค่าเงินบาทจะยังคงมีแนวโน้มผันผวนในกรอบกว้าง และอาจกลับทิศทางอ่อนค่าลงอีกครั้งได้ หากแรงเทขายสินทรัพย์ในฝั่ง EM (ฟันด์โฟลว์ต่างชาติไหลออก) ยังคงเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่ยีลด์ 10ปีสหรัฐฯ ยังพุ่งขึ้นต่อได้ จากความกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้น หรือ ผลประมูลบอนด์ 10ปี ออกมาแย่กว่าคาด ทั้งนี้ แรงเทขายดอลลาร์จากฝั่งผู้ส่งออกจะเริ่มกลับมาแถวระดับ 30.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ 


ส่วนแรงซื้อดอลลาร์ของผู้นำเข้าก็เริ่มขยับขึ้นมาใกล้ระดับ 30.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ เงินบาทอาจจะไม่ได้แข็งค่าไปมากนัก และถ้าอ่อนค่า ก็อาจอ่อนค่ากลับไปได้ถึงระดับ 30.75-30.90 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ แม้เงินบาทจะผันผวนในกรอบกว้าง เรายังคงมองว่า ผู้ส่งออกควรทยอยปิดความเสี่ยงค่าเงิน ในช่วงที่เงินบาทกลับมาอ่อนค่า เนื่องจากในระยะยาว โดยเงินบาทยังมีแนวโน้มกลับไปแข็งค่าได้อยู่จากแนวโน้มเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่จะไหลกลับเข้าตลาดทุนไทยมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้


นอกจากนี้ผู้ส่งออกอาจเริ่มพิจารณาใช้เครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น อาทิ Option (แต่อาจจะต้องรอให้ ความผันผวนตลาดลดลงก่อน) เนื่องจากทิศทางตลาดการเงินในช่วงนี้ สามารถพลิกกลับไป/มา ได้อย่างรวดเร็วและรุนแรง ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 30.65-30.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

ข่าวแนะนำ