TNN online โบรกคาดหุ้นไทยขึ้นกรอบจำกัด ระวังแรงขายทำกำไร

TNN ONLINE

Wealth

โบรกคาดหุ้นไทยขึ้นกรอบจำกัด ระวังแรงขายทำกำไร

โบรกคาดหุ้นไทยขึ้นกรอบจำกัด ระวังแรงขายทำกำไร

โบรกมองหุ้นไทยวันนี้ขึ้นในกรอบจำกัด ระวังแรงขายทำกำไรหลังจากเมื่อวานหุ้นปรับขึ้นแรง-บอนด์ยีลด์กลับมาดีดตัวขึ้นอีกครั้ง ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,535-1,550 จุด บล.ไทยพาณิชย์แนะนำหุ้นเปิดเมือง ด้านเอเซียพลัสชู AAV- BDMS-CPN

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสปรับขึ้นได้ในกรอบจำกัด เนื่องจากตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวในแดนลบกัน หลังจากที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯได้ปรับตัวขึ้นสูงอีกครั้ง  จากตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์สูงขึ้น ทำให้ไปกดดันตลาดอีกรอบ ส่งผลให้ตลาดบ้านเรามีโอกาสที่จะเผชิญแรงขายทำกำไรได้ในระหว่างทางเช่นเดียวกับตลาดต่างประเทศ 

ทั้งนี้แรงซื้อที่เข้ามาที่หุ้นไทยวานนี้มาจากประเด็นการจะเปิดเมืองและมาตรการต่าง ๆ อย่างเรื่องของวีซ่าพาสปอร์ต ซึ่งหากออกมาจริงก็จะทำให้คนสามารถเดินทางได้เลยไม่ต้องรอนาน ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นมาได้ดีกว่าตลาดภูมิภาค เพราะก่อนหน้านี้มีการอั้นหุ้นบิ๊กแคปมาพักใหญ่ แต่พอมีแรงซื้อเข้ามาที่หุ้น CPALL  ทำให้มีแรงซื้อหุ้นอื่นตาม   ส่วนวันนี้ติดตามผลการประชุมโอเปกพลัส เพราะจะมีผลต่อราคาน้ำมัน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,535-1,550 จุดโบรกเตือนระวังหุ้นไทยผันผวนแรงขายทำกำไร

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า การลงทุนในวันนี้เลือกหุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard มี valuation น่าสนใจ ได้แก่ 1.หุ้นธนาคารที่ได้ประโยชน์ bond yield อยู่ในระดับสูง BBL 2. หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการเปิดเมืองและฉีดวัคซีน CPALL, HMPRO, CENTEL, MINT ,BDMS ส่วนพอร์ตเก็งกำไร selective buy ในหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์ TWPC ส่วนหุ้นเกาะกระแสกัญชง DOD RBF KWM เก็งกำไรด้วยความระมัดระวัง


ทั้งนี้แนะนำ BDMS (ราคาเป้าหมาย 28.00 บาท) คาดกำไรฟื้นสู่ระดับปกติใน 2Q64 จะออกแพ็คเกจขยายฐานผู้ป่วยไทยและเพิ่มกลุ่มประกันสุขภาพเอกชน CPALL (ราคาเป้าหมาย 74.00 บาท) คาดกำไรกลับมาโต YoY ใน 2Q64 ตาม SSS ที่ฟื้นตัวขึ้น และ BEM (ราคาเป้าหมาย 10.30 บาท) โอกาสจะชนะโครงการ รฟฟ. สายสีส้มมีมากขึ้นหลัง รฟม. จะเปิดรับฟังความเห็นร่าง TOR เกณฑ์ราคา 70 เทคนิค 30 คาดเพิ่ม upside ได้อีก 1.5 บาท/หุ้น


ด้านบล.เอเซียพลัส   แนะนำ AAV ราคาเป้าหมาย 3.10 บาท  ภาพหลัง COVID เป็นบวกที่สุดในกลุ่มเนื่องจากการเดินทางใน+นอกประเทศทยอยกลับมานับจากนี้ หลังจากทั่งโลกเริ่มมีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ราว 1 เดือนเชื่อว่าการเดินทางจะกลับมา นำโดยการเดินทางในประเทศคาดตั้งแต่ 2Q64โอกาสฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดใน 1Q64 ที่ชัด หลังสถานการณ์ COVID ดีขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงสภาพคล่องโดย AAV กลับมามีทางเลือก เช่น การขายตั๋วล่วงหน้า คาดช่วยให้ AAV อยู่รอด และหลัง COVID จะมีฝูงบินบริการมากสุด พร้อมรับโอกาสช่วงฟื้นตัวที่เด่นมูลค่าพื้นฐานใหม่ที่ 3.1 บาท อิง PBV ที่ 1.3 เท่าเทียบเท่า PBV Band+0.5 S.D. (เดิมใช้ PBV Band)ชดเชยมูลค่าทางบัญชีลดลงจากขาดทุนมากกว่าคาด

 

BDMS ราคาเป้าหมาย 24 บาท ศบค.เห็นชอบรพ.เอกชนสามารถให้บริการวัคซีน (อย่างเป็นทางการ) คาดเป็นปัจจัยปลดล็อคความกังวล หนุนให้คาดหวังการฟื้นตัวผู้ป่วยไทยกลับเข้ามาใช้บริการมากขึ้น บวกต่อ BDMS ที่มีสาขาครอบคลุมรอ - ภาพรวมเชื่อว่าจะช่วยหนุนให้เห็นการฟื้นตัวมีนัยฯมากขึ้นนับจาก 2Q64 และในช่วง 2H64 จึงยังคงคาดกำไรปกติ ปี64 เติบโต 28.4% นอกจากนี้ มีอีก Highlight บวก ที่รออยู่ คือการผ่อนคลายมาตรการกักตัวผู้ป่วยต่างชาติ Fly-in ที่ฉีดวัคซีนแล้ว เช่น ลดวันกักตัว ฝ่ายวิจัยยังชื่นชอบ BDMS มากสุดในกลุ่มฯ จากธุรกิจที่แข็งแกร่ง และมีเครือข่ายครอบคลุม มูลค่าพื้นฐานที่ 24 ยังมี Upside ลงทุน 19.4% แนะนำทยอยสะสม


ปิดท้าย CPN 60 บาท แม้กำไรปกติ 4Q63 จะลดลง 9% qoq ที่ 2.14 พันล้านบาท และมีโอกาสอ่อนตัวต่อใน 1Q64 จากโควิด-19 รอบใหม่ แต่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ก่อนค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสถัดไป หลังทุกศูนย์การค้าในไทยกลับมาเปิดบริการได้หมด (มหาชัย กลับมาเปิด 2 ก.พ. 2564), การ Lock Down ผ่อนคลายลง และการเริ่มใช้วัคซีนในไทยมีความชัดเจนมากขึ้น ย่อมหนุนให้ธุรกิจศูนย์การค้าฟื้นตัวดีขึ้นทั้งในเชิงTraffic และการให้ส่วนลดค่าเช่าที่จะทยอยลดลง 

เชื่อว่าทิศทางกำไรปี  64 จะยังสูงขึ้นจากปี 63 บวกกับแผนขายสินทรัพย์ใหม่เข้ากอง REIT ในปีนี้ ที่จะเข้ามาสร้างกำไรพิเศษเพิ่มเติม 

โบรกคาดหุ้นไทยขึ้นกรอบจำกัด ระวังแรงขายทำกำไร

ข่าวแนะนำ