TNN online ตลาดหุ้นไทยแกร่งกลับมายืนบวก 1,500 จุด

TNN ONLINE

Wealth

ตลาดหุ้นไทยแกร่งกลับมายืนบวก 1,500 จุด

ตลาดหุ้นไทยแกร่งกลับมายืนบวก 1,500 จุด

ตลาดหุ้นไทยปิดบวก 1,500.92 จุด แรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่หนุนแม้ถูกเทขายจากหุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก เหตุผิดหวังงบไตรมาส 4/63 จับตาประชุมโอเปกพลัสตรึงกำลังการผลิตน้ำมันต่อหรือไม่-การเมืองในประเทศ แนะหุ้นราคาแลกการ์ด-ค้าปลีก

นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นปิดที่ 1,500.92  จุด บวก  4.14 จุด หรือ 0.28 % ระหว่างวันเคลื่อน ไหวสูงสุด 1,505.61  จุด และต่ำสุดที่ 1,487.99 จุด มูลค่าการซื้อขาย 84,565.35 ล้านบาทว่าตลาดหุ้นไทยกลับมายืน 1,500 จุด แม้ภาพรวมจะผันผวนจากแรงเทขายหุ้นบางส่วนของนักลงทุนที่ผิดหวังการประกาศงบในไตรมาส 4/63โดยหุ้นขนาดกลางและเลก็ปรับขึ้นน้อยกว่าตลาด หรืออันเดอร์เพอร์ฟอร์ม 


ขณะที่หุ้นขนาดใหญ่ปรับขึ้นได้ดี ส่วนตลาดหุ้นโลกเริ่มกลับมาฟื้นตัวหลังจากสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐอเมริกาผ่านร่างงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.9 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  แต่รอวุฒิสภาอนุมัติอีกรอบในสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ธนาคารกลางทั่วโลกได้เข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวหลังจากที่ผลตอบแทนพันธบัตรหรือบอนด์ยีลด์ได้ปรับตัวสูงขึ้น  เพื่อลดความผันผวนเชิงลบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก 


ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมของกลุ่มโอเปกในวันที่ 3-4 มี.ค.นี้ โดยเฉพาะซาอุดิอารเบียว่าจะตรึงกำลังการผลิตน้ำมันต่อหรือไม่ซึ่งหากปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 5 แสนบาร์เรลต่อวัน จากเดิม 1 ล้านบาร์เรลต่อวันก็จะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ในทางตรงกันข้ามถ้าไม่ตรึงกำลังการผลิตต่ออาจเป็นปัจจัยลบต่อราคาน้ำมัน 


สำหรับในประเทศติดตามเรื่องการชุมนุมทางการเมือง และในวันที่ 4 มี.ค.ศาลรับพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งหากรับผู้ชุมนุมก็อาจจะไม่มากแต่หากแก้ไม่ได้ในบางมาตราก็อาจทำให้มีปัญหา แต่การเมืองยังไม่มีนัยว่าจะไปในทิศทางไหน ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีจากเศรษฐกิจฟื้นตัว ราคาแลกการ์ด เกี่ยวข้องกับกำลังซื้อในประเทศ เช่น ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หรือของกินของใช้ เช่น CPN,CPALL ประเมินกรอบแนวรับที่ 1,490 จุด แนวต้านที่ 1,510-1,515 จุด 


นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล. ทรีนีตี้  กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปิดบวกสอดรับกับตลาดหุ้นในภูิมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปิดเขียวสดใสมากกว่าบ้านเรา เนื่องจากได้หยุดทำการไปเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ก.พ. ที่ผ่านมา ที่ตลาดหุ้นเอเชียร่วงหนักจากผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐหรือบอนด์ยีลด์ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ได้น่าตกใจมากนัก  ส่วนการประกาศงบไตรมาส 4/63 สิ้นสุดลงเรียบร้อยแล้ว โดยปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 มี.ค.นี้ว่าจะเพิ่มหรือลดซัพพลายในตลาด เพราะหลังจากที่มีกระแสข่าวว่าเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้นรับข่าวนี้ไปก่อนแล้วแต่ดีมานปรับตัวไม่ทัน 


ทั้งนี้หากมีการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันก็จะทำให้ราคาปรับตัวลงกระทบต่อกลุ่ม Oil & Gas โดยแนวโน้มหุ้นไทยไซด์เวย์ออกข้าง ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นพีอีต่ำ เป็นหุ้นที่มี Value มากกว่า Growth กลุ่มธนาคารพาณิชย์ เช่น KBANK,BBL กลุ่มพลังงาน เช่น PTTGC,TOP,IRCP  กลุ่มอสังหาริมทรัพย์เช่น ORI,AP รวมถึงกลุ่มเกษตรอาหาร เช่น CPF,TU ประเมินกรอบแนวรับที่ 1.480 จุดแนวต้านที่ 1,530 จุด 

ตลาดหุ้นไทยแกร่งกลับมายืนบวก 1,500 จุด

ข่าวแนะนำ