"วันมาฆบูชา"ซึมหนัก คาดเงินสะพัดต่ำสุดในรอบ 6 ปี

วันนี้( 24 ก.พ.64) นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมและการใช้จ่ายช่วงวันมาฆบูชาปี 2564 พบว่าประชาชนส่วนใหญ่กว่า 48.7% มองว่าบรรยากาศการไปวัดทำบุญช่วงมาฆบูชาปีนี้ น่าจะคึกคักน้อยกว่าปีที่แล้ว ด้วยภาวะเศรษฐกิจ รายได้ที่ลดลงและการแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะที่อีก 23% ที่มองว่าบรรยากาศน่าจะดีกว่าเป็นเพราะนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ทำให้มีความคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้นและมีการทำบุญมากขึ้น

ส่งผลให้ประเมินว่ามูลค่าเงินสะพัดช่วงวันมาฆบูชาปีนี้ จะอยู่ที่ 2,357 ล้านบาท หดตัวติดลบ 9.38% จากปีก่อนที่มีมูลค่าเงินสะพัดอยู่ที่ 2,667 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่ปี 2558 ขณะที่เดียวกันยังเป็นการขยายตัวติดลบทุดรายการกิจกรรมครั้งแรกในรอบ 6 ปีเช่นเดียวกัน แบ่งเป็น มูลค่าการใช้จ่ายในการทำบุญ ประมาณ 1,917 ล้านบท, การเดินทางนอกพื้นที่/ท่องเที่ยว/กลับบ้าน ประมาณ 232.53 ล้านบาท และกิจกรรมอื่น ๆ ประมาณ 207 ล้านบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน โดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 1,311.44 บาท 

อย่างไรก็ตาม นายธนวรรธน์ ระบุว่า จากมูลค่าการใช้จ่ายที่ย่อตัวลงดังกล่าวที่ติดลบ -9.36% นั้น ถือว่าดีกว่ามูลค่าการใช้จ่ายในช่วงตรุษจีนและวาเลนไทน์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการหดตัวติดลบรวมกันกว่า 20% ทั้งนี้สะท้อนว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยเริ่มเห็นสัญญาณปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้นแล้ว จากการอัดฉีดเม็ดเงินของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ และคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวชัดเจนในช่วงไตรมาส 2 เป็นต้นไป