ดัชนีหุ้นไทยร่วงหลุด 1,500 จุด ต่างชาติ-สถาบันกระหน่ำเทขายทำกำไร
ดัชนีหุ้นไทยไปต่อไม่ไหวปิดลบ 22.37 จุด ตามตลาดหุ้นเอเชีย เหตุนักลงทุนต่างชาติ-สถาบัน-บัญชีบล.เทขายทำกำไรหุ้นขนาดกลาง แนะหุ้นท่องเที่ยวรับอานิสงส์วัตซีนล็อตแรก
นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,478.14 จุด ลบ 22.37 จุด หรือ -1.49 % ระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุด 1,505.47 จุด และต่ำสุดที่ 1,476.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 89,859.24 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบเป็นผลมาจาก แรงขายหุ้นขนาดกลางทำกำไรหลังจากราคาปรับขึ้นแรงมาก่อนหน้านี้ทำให้ดัชนีหลุด 1,500 จุด โดยหุ้นที่ปรับตัวลง เช่น TKN,CBG,PTG และ DOD เป็นต้น ส่วนหุ้นที่บวก เช่น OR และSTA ขณะที่ตลาดเอเชียส่วนใหญ่ปิดลบ เช่น ฮ่องกงลบ 1% จีน 1.45% และฟิลิปปินส์ 1.7% ส่วนดาวโจนส์ฟิวเจอร์สร่วงลง 200 จุด ด้านตลาดยุโรป เปิดตลาดก็เข้าสู่แดนลบ นอกจากนี้การที่ผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) สหรัฐฯและไทยปรับขึ้นมาเร็ว ทำให้ตลาดทั่วโลกพักฐานระยะสั้น
สำหรับวันนี้นักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,407.25 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ 2,173.64 ล้านบาท ต่างประเทศขายสุทธิ 1,966.70 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 6,547.59 ล้านบาท ทั้งนี้มองแนวโน้มหุ้นไทยอ่อนตัวลงจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ ส่วนราคาน้ำมันปรับตัวลงเล็กน้อย ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่ได้รับผลดีจากวัคซีนล็อตแรกที่จะที่จะเข้ามาในไทยวันที่ 24 ก.พ.นี้ โดยเฉพาะในกลุ่มท่องเที่ยว เช่น MINT,ERW,CENTEL,AWC
ด้านปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนม.ค. ผลประกอบการงวดไตรมาส 4/63 ของบจ. ปัจจัยทางการเมืองของไทย สถานการณ์โควิด 19 รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนม.ค. และจีดีพีไตรมาส 4/63 ถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ประเมินกรอบแนวรับที่ 1,415 จุด แนวต้านที่ 1,487 จุด