หุ้นไทยไซด์เวย์หวังราคาน้ำมันพุ่งหนุนหุ้นพลังงาน

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย ซีมิโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์หรือไซด์เวย์อัพในช่วงที่ปัจจัยต่างๆ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ของสหรัฐฯ ระยะยาวได้ปรับตัวขึ้น ทำให้กังวลอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นด้วย ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ มีหุ้นในกลุ่มธนาคารขึ้นนำ ซึ่งน่าจะส่งโมเมนตัมเชืงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคารในประเทศเช่นกันส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น

อย่างไรตาม  ปัจจัยติดตามคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) เปิดเผยรายงานการประชุม ต้องจับตาว่ามีมุมมองต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยอย่างไร รวมถึงยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ   ตลาดคาดว่าจะออกมาดีขึ้น

ส่วนในประเทศเป็นเรื่องการ ทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน  และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ   โดยแนะลงทุนหุ้นที่มีงบฯออกมาดี ประเมินกรอบแนวรับ 1,516 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

รายงานข่าวจากบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า  คาด SET ยังเคลื่อนไหวกรอบจำกัด โดยการปรับขึ้นจะเป็นเพียงเฉพาะกลุ่ม และต้องระวัง sell on fact ในช่วงประกาศงบสำหรับ Conviction เน้นหุ้นใหญ่กำไร 4Q63 เติบโต-1Q64 โตต่อ (PTTEP IVL) พอร์ตเก็งกำไร selective buy ในหุ้น 1. Global Plays กลุ่มพลังงาน (PTTEP,PTT,TOP) 2. 4Q63 Earnings Play คาดงบโต YoY (TU, CPF, GULF, WICE, TNP) ส่วน EPG, SCCC ,SCGP แนะนำ Let Profit Run

อย่างไรก็ตาม  แนะนำ PTTEP ต่อเนื่อง  (ราคาเป้าหมาย 147.00 บาท) หนุนจากราคาน้ำมันสูงสุดในรอบ 13 เดือน ขณะที่โครงการ Sabah H เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติแล้ว อีกทั้งยังมี upside เพิ่มเติมจากการลงทุนในตะวันออกกลางซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ

ด้านบล.เอเซีย พลัส แนะนำ หุ้น  CPN ( FV@ 60 บาท)  แม้กำไรปกติ 4Q63 จะลดลง 9% qoq ที่ 2.14 พันล้านบาท และมีโอกาสอ่อนตัวต่อใน 1Q64 จากโควิด-19 รอบใหม่ แต่น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี ก่อนค่อย ๆ ฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาสถัดไป หลังทุกศูนย์การค้าในไทยกลับมาเปิดบริการได้หมด (มหาชัย กลับมาเปิด 2 ก.พ. 64) การ Lock Down ผ่อนคลายลง และการเริ่มใช้วัคซีนในไทยมีความชัดเจนมากขึ้น ย่อมหนุนให้ธุรกิจศูนย์การค้าฟื้นตัวดีขึ้นทั้งในเชิงTraffic และการให้ส่วนลดค่าเช่าที่จะทยอยลดลง เชื่อว่าทิศทางกำไรปี 64 จะยังสูงขึ้นจากปี 2563 บวกกับแผนขายสินทรัพย์ใหม่เข้ากอง REIT ในปีนี้ ที่จะเข้ามาสร้างกำไรพิเศษเพิ่มเติม 

ถัดมาเป็นหุ้น M  (FV@59 บาท)  เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ในไทยมีทิศทางผ่อนคลายขึ้นจากช่วง ธ.ค. 63 หลังจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันล่าสุดลดลงเหลือ 72 คนต่อวัน ขณะที่ภาครัฐตั้งเป้าหมายการฉีดวัคซีน COVID-19 ให้ครอบคลุม 50% ของประชากรไทย ภายในสิ้นปีนี้ ช่วยลดการเกิด Lock down และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค โดยรวมฝ่ายวิจัยเชื่อว่าสถานการณ์ของ M ได้ผ่านจุดเลวร้ายสุดแล้วช่วง ม.ค. 64 ทำให้คาด 1Q64 เป็นจุดต่ำสุดของปี 2564 ก่อนงวด 2Q64 จะฟื้นตัวเด่นชัด QoQ และพลิก Turn around เป็นกำไรเมื่อเทียบกับช่วง 2Q63 ด้านกำไรปี 2564 ประเมินขยายตัว 69% yoy มากกว่า EPS ตลาดปี 64 ที่ฝ่ายวิจัยมองไว้เติบโต 38% yoy 

แนะนำซื้อราคาปัจจุบันเป็นจุดทยอยสะสม หลังราคาลงมาซื้อขายที่ PBV ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 2 ปีราว 1SD เทียบกับ AU และ ZEN ที่กลับมาซื้อขายในระดับเดียวกับค่าเฉลี่ยฯ แล้ว รวมถึงในธีมเปิดเมืองราคาหุ้น M ยัง Laggard กลุ่มท่องเที่ยว 

ทั้งที่คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรช่วง 2Q64 และสถานการเงินแข็งแกร่งกว่า ณ สิ้นงวด 3Q63 เป็น Net Cash ราว 6.8 พันล้านบาท

 

ปิดท้ายที่ EASTW  ภัยแล้งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน อ้างอิงจากกรมชลประทาน ที่ระบุว่าระดับน้ำในเขื่อนที่ใช้ได้จริงในปัจจุบันอยู่ที่ 23% (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปี) ซึ่ง EASTW ถือเป็น Sentiment บวกต่อหุ้น EASTW สังเกตได้จากภัยแล้งรอบก่อนหน้าในช่วงต้น-กลางปี 2019 (แล้งสุดในรอบ 30 ปีจากปรากฏการณ์“เอลนีโญ”) โดย EASTW ถือเป็นหุ้นที่โดดเด่นที่สุดในสภาวะดังล่าว และปรับตัวขึ้นกว่า 21% หรือราคาหุ้นทำจุดสูงสุดที่ระดับ 13 บาท ในช่วงเวลาดังกล่า