หุ้นไทยรีบาวด์ตามหุ้นภูมิภาค คาดน้ำมันพุ่งหนุนดัชนี

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ารีบาวด์ขึ้นตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวก 0.5% แต่ก็มีบางตลาดได้ปิดทำการอย่างจีน, ไต้หวัน และคืนนี้ตลาดสหรัฐฯก็จะปิดทำการด้วย คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และเช้านี้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สพุ่งอีกเกือบ 2% ซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้เป็นผลจากสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในต่างประเทศได้มีจำนวนผู้ติดเชื้อที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯได้จัดหาวัคซีนโควิด-19 ได้เพิ่มอีก 200 ล้านโดส ซึ่งครอบคลุมประชากรของสหรัฐฯ 

คาดหวังว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯน่าจะฟื้นตัวได้ดี ส่งผลให้หุ้นวัฎจักรในสหรัฐฯต่างปรับตัวข้นได้ดีเมื่อวันศุกร์ทีผ่านมา และทำให้หุ้นวัฎจักรในตลาดบ้านเราจะได้รับอานิสงส์ไปด้วย

อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ของตลาดอาจจำกัด จากการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน หลังจากที่หุ้น OR จะเข้า SET50 มีผล 17 ก.พ. และเข้า MSCI มีผล 26 ก.พ.นี้ ทำให้ต้องเผชิญแรงขายทำกำไรบ้าง นอกจากนี้ปัจจัยการเมืองก็ยังต้องติดตามในเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ประเมินกรอบแนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,530 จุด

รายงานข่าวบล.ไทยพาณิชย์แจ้งว่า ตลาดสัปดาห์นี้ sideways-up ไม่ทำจุดต่ำแต่ก็ไม่ทำจุดสูงใหม่เช่นกัน หลังขาดปัจจัยบวก/ลบ ใหม่ๆ ในช่วงสั้นนี้ Conviction เน้นหุ้นใหญ่คุณภาพดี Valuation น่าสนใจ คาดกำไร 4Q63 เติบโตและฟื้นตัวต่อเนื่อง 1Q64 (PTTEP,IVL) ส่วนพอร์ตเก็งกำไร selective buy ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว 1. Global Plays กลุ่มพลังงาน (PTTEP,PTT,TOP) 2. 4Q63 Earnings Play คาดงบโต YoY (TU, CPF, GULF, WICE, TNP) ส่วนหุ้นแนะนำสัปดาห์ก่อน EPG, SCCC ,SCGP งบดีตามคาด แนะนำ Let Profit Runหรือปล่อยให้สินทรัพย์ทำกำไร

อย่างไรก็ตาม  ระวังหุ้นที่คาดงบ 4Q63 ออกมาแย่ YoY, QoQ และ outlook 1Q64 ไม่สดใส (CRC, CKP, LH, SEAFCO) และจับตางบ 2Q-3Q64 หุ้นกลุ่มโรงแรม หากกำไรยังไม่ฟื้น/วัคซีนมาช้า

ด้านบล.เอเซีย พลัส แนะนำ  PTT (FV @ 48.5) เนื่องจากราคาหุ้น laggard ราคาน้ำมันดิบมากเหลือเกินมุมมองเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว หนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น 50 เหรียญฯ ถือเป็นบวกต่อหุ้นน้ำมันอย่าง  PTT รวมถึงผลการดำเนินงานค่อยๆฟื้นตัวตามเศรษฐกิจในภาพใหญ่ หนุนความต้องการใช้ปโตรเลียม/ปโตรเคมีกระเตื้องขึ้น  ทิศทางผลการดำเนินงานของ PTT ในปี 64 จะเห็นการ ปรับตัวขึ้นมีนัยฯกว่าเท่าตัว YOY และหากพิจารณา  แนวโน้มกำไรระยะสั้นงวด 4Q63 คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น QoQ จากทุกธุรกิจทั้งธุรกิจก๊ซฯ และโรงแยกก๊ซฯของ PTT จากความต้องการใช้ที่กระเตื้องขึ้นตามเศรษฐกิจ ประเมินมูลค่าพื้นฐานปี 64 เท่ากับ 48.50 บาท/หุ้น มี Upside ประมาณ 20%

 

ถัดมาเป็นหุ้น PTTEP (FV @ 118.0)  ปี 64 กำไรฟื้น YOY แนะนำ "ซื้อ" แนวโน้มกำไรปกติ 1Q64 จะประคองตัวใกล้เคียงกับ 4Q63 ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบเฉลี่ยยืนได้เหนือ 50 เหรียญฯต่อบาร์เรล และต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง ทิศทางกำไรปกติทั้งปี64 คาดจะปรับตัวเพิ่มขึ้นราว10.8%yoy มาอยู่ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท หนุนหลักจากสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบ และปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นรวมถึงต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลงประเมินมูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2564 ที่ 118 บาท/หุ้น รับปันผa 2H63 หุ้นละ 2.75 บาท คิดเป็น DivYield ครึ่งปี 2.5%

 

ปิดท้าย NER คาดกำไรสุทธิงวด 4Q63 จะเพิ่มขึ้นถึง 181.2% qoq และ 245.1% yoy ขึ้นทำ New High รายไตรมาส และสูงกว่าที่คาดไว้เดิมถึง  18% จากช่วง high season ของธุรกิจ และอานิสงค์ราคายางที่ปรับสูงขึ้นในงวด 4Q63 นำไปสู่การเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2563-64 ขึ้นเฉลี่ย 9% ต่อปี และรวมสมมติฐานการใช้สิทธิ NER-W1 ไว้ในประมาณการปี 2563-65 แล้ว ภายหลังปรับเพิ่มประมาณการ คาดกำไรสุทธิปี 2563-64 จะเติบโตถึง 61% yoy และ 21% yoy จากปริมาณการขายยางพาราเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจจีน กำหนด FV ปี 2564 ใหม่ เท่ากับ 6.20 บาท ราคาหุ้นมี Valuation น่าสนใจ มีค่า PER เพียง 8 เท่า และ Dividend yields กว่า 5%