TNN online "ออริจิ้น" เผยยอดขายครึ่งปีพุ่ง1.1หมื่นล้าน

TNN ONLINE

Wealth

"ออริจิ้น" เผยยอดขายครึ่งปีพุ่ง1.1หมื่นล้าน

ออริจิ้น เผยยอดขายครึ่งปีพุ่ง1.1หมื่นล้าน

“ออริจิ้น” ส่งซิกยอดขายปีนี้มีโอกาสทะลุเป้า 21,500 ล้านบาท หลังครึ่งปีแรกทำได้แล้ว 11,000 ล้านบาท คิดเป็นมากกว่า 50% ของเป้าทั้งปี พร้อมชี้ภาพรวมตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลังจะทยอยฟื้น เล็งเปิด 12 โครงการ มูลค่ารวม 16,700 ล้านบาท

นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขาย (Presale)ในปี 2563 มีโอกาสเติบโตได้มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 21,500 ล้านบาท เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายสะสมแล้ว 11,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากการขายโครงการเดิมที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและขายเป็นหลัก        

ทั้งนี้ ยอดขายสะสมในช่วงครึ่งปีแรกที่ 11,000 ล้านบาท คิดเป็นมากกว่า 50% ของเป้าหมายยอดขายรวมทั้งปีที่ตั้งไว้ 21,500 ล้านบาท ซึ่งยอดขายสะสมดังกล่าวเติบโตกว่าเป้าหมายที่บริษัทประเมินไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี อย่างไรก็ตามปกติยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 30-40% ของเป้าหมายทั้งปี และในช่วงไตรมาส 3-4 ของทุกปีจะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจะมียอดขายมากกว่าช่วงครึ่งปีแรก          

สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่เพียง จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,300 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ แกรนด์ บริทาเนีย วงแหวน รามอินทรา มูลค่าโครงการ 1,900 ล้านบาท เป็นโครงการบ้านเดี่ยว และ 2.โครงการ บริทาเนีย สายไหม มูลค่าโครงการ 1,400 ล้านบาท เป็นโครงการแบบ Mixed ทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ (บ้านแฝด) และทาวน์โฮม ในโครงการเดียวกัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการได้รับการตอบรับที่ดี         

ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทมีแผนจะเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่จำนวน 12 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 16,700 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการบ้านจัดสรร จำนวน 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 8,800 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียมจำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเปิดตัวโครงการใหม่ที่มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก จึงน่าจะส่งผลให้ยอดขายทั้งปีมีโอกาสทำได้มากว่าเป้าหมายทั้งปีที่ตั้งไว้         

นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังซึ่งจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก ทั้งจากเศรษฐกิจที่ดีขึ้น การกระตุ้นของภาครัฐ และความมั่นใจของผู้บริโภค ซึ่งหากมีการระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 บริษัทเชื่อว่าจะมีการรับมือที่ดี จะสามารถควบคุมได้ดีกว่ารอบแรกจากประสบการณ์ที่มีมาแล้ว เช่น การควบคุมกลุ่มคนเฉพาะ จะไม่มีการล็อกดาวน์ทั้งประเทศ เป็นต้น          

ส่วนเป้าหมายรายได้รวมในปี 2563 บริษัทยังคงมั่นใจจะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 16,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการจำนวน 14,000 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ จำนวน 2,000 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 1/2563 บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 40,110 ล้านบาท จะทยอยรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 2-4/2563 จำนวน 12,158 ล้านบาท (เป็น Backlog จากโครงการร่วมทุน 4,545 ล้านบาท และจากโครงการที่บริษัทพัฒนาเอง 7,613 ล้านบาท) ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้รายได้ถึงปี 2565 นอกจากนี้ ล่าสุดบริษัทยังมีสินค้าเหลือขาย (สต๊อก) มูลค่ารวมประมาณ 8,000 ล้านบาท          

โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 มีโครงการสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 9,980 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายเฉลี่ยแล้วประมาณ 80-90% แบ่งเป็น ในช่วงไตรมาส 3/2563 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 2 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 3,680 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการไนท์บริดจ์ ไพร์ม อ่อนนุช มูลค่าโครงการ 2,600 ล้านบาท และ 2.โครงการ ไนท์บริดจ์ คอลลาจ สุขุมวิท 107 มูลค่าโครงการ 1,080 ล้านบาท          

นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2563 จะมีโครงการคอนโดมิเนียมเสร็จใหม่ จำนวน 4 โครงการ มูลค่าโครงการ 6,300 ล้านบาท ได้แก่ 1.โครงการ ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท 105 มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท, 2.โครงการ เคนซิงตัน ระยอง มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท, 3.โครงการ ไนท์บริดจ์ เกษตร โซไซตี้ มูลค่าโครงการ 1,300 ล้านบาท และ 4.โครงการ ไนท์บริดจ์ สเปซ รัชโยธิน มูลค่าโครงการ 2,700 ล้านบาท


เกาะติดข่าวที่นี่ 
website: www.TNNThailand.com 
facebook : TNNThailand 
facebook live : TNN Live 
twitter : @TNNThailand 
Line : @TNNONLINE 
Youtube Official : TNNThailand 
Instagram : @tnn_online

ข่าวแนะนำ