พาณิชย์เผยส่งออกยางพุ่งสวนโควิด-19
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เผยไทยส่งออกยาง 2 เดือนแรกโตร้อยละ 10 สวนวิกฤตโควิด-19
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
เปิดเผยว่า ในช่วงวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้หลายประเทศปิดโรงงานผลิตหรือชะลอการผลิตรถยนต์
จึงทำให้ความต้องการยางลดลงด้วย แต่สำหรับยางไทยยังมีโอกาสขยายส่งออกได้
เนื่องจากพบว่าทั่วโลกมีความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไวรัสเพิ่มมากขึ้น
อาทิ ถุงมือยาง ยางสังเคราะห์ที่ใช้ทำถุงมือยาง โดยได้รับรายงานว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้
การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางและยางแปรรูปของไทยไปตลาดโลกขยายตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนหนึ่งมาจากความตกลงการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ ที่ไทยทำกับประเทศคู่ค้า ซึ่งช่วยให้สามารถขยายการส่งออกสินค้าได้มากขึ้น
จึงได้สั่งการให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
เร่งศึกษาข้อมูลช่องทางขยายตลาดส่งออกยางของไทย โดยใช้ประโยชน์จากเอฟทีเอ
เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกให้ผู้ประกอบการไทย ในช่วงวิกฤตโควิด-19
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ
เพิ่มเติมว่า ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2563 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง
และยางแปรรูปในลักษณะผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น ยางล้อรถยนต์ ถุงมือยาง ยางยืด
ยางรัดของ และยางสังเคราะห์ เป็นต้น ไปตลาดโลกมีมูลค่า 1,969 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 10 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้
เอฟทีเอถือเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้การส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทยขยายตัว
เนื่องจากสินค้าไทยไม่ถูกเก็บภาษีศุลกากรในประเทศผู้นำเข้า
โดยปัจจุบันไทยมีเอฟทีเอ 13 ฉบับ กับ 18 ประเทศ ซึ่งมี 14 ประเทศ ไม่เก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางส่งออกจากไทยแล้ว
ได้แก่ อาเซียน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ เปรู และฮ่องกง ยังเหลืออีก 4 ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย และชิลี
ที่ยังเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ยางบางรายการจากไทย เช่น จีน เก็บภาษียางสังเคราะห์
อัตราร้อยละ 5 เกาหลีใต้
เก็บภาษียางสังเคราะห์ อัตราร้อยละ 5 อินเดีย เก็บภาษียางนอกชนิดที่ใช้กับรถยนต์นั่ง
และของที่ทำด้วยยาง เช่น rubber band อัตราร้อยละ
5 และชิลี
เก็บภาษียางนอกชนิดที่ใช้กับรถยนต์นั่งและรถบัสอัตราร้อยละ 1.32 เป็นต้น
สำหรับในปี 2562 ไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปประเทศคู่เอฟทีเอ มูลค่า 5,143 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นร้อยละ 46 ของการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ยางทั้งหมดของไทย
เมื่อเปรียบเทียบมูลค่าส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไทยไปตลาดโลก ในปี 2562 กับปี 2535 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ความตกลงเอฟทีเอฉบับแรกของไทยกับอาเซียนจะมีผลใช้บังคับ
พบว่าไทยส่งออกผลิตภัณฑ์ยางไปตลาดโลก เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 2,981 และส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ยางไปประเทศคู่เอฟทีเอ
ขยายตัวถึงร้อยละ 5,970 ซึ่งหากแยกรายตลาด
พบว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าผลิตภัณฑ์ยางของไทยไปประเทศคู่เอฟทีเอเพิ่มขึ้นทุกตลาด
(เว้นฮ่องกงที่เพิ่งเริ่มใช้บังคับมิถุนายน 2562) โดยอาเซียนขยายตัวสูงสุดถึงร้อยละ 5,674 รองลงมา จีน ขยายตัวร้อยละ 2,721 นิวซีแลนด์ ขยายตัวร้อยละ 706 และเกาหลีใต้ ขยายตัวร้อยละ 574 สอดคล้องกับสถิติที่พบว่าผลิตภัณฑ์ยางเป็นหนึ่งในสินค้าที่ผู้ประกอบการไทยขอใช้สิทธิประโยชน์จากเอฟทีเอในการส่งออกเป็นอันดับต้น
ทั้งนี้ ในปี 2562 ไทยครองตำแหน่งผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ยาง และยางแปรรูป
เป็นอันดับที่ 4 ของโลก (รองจาก จีน
เยอรมนี และสหรัฐฯ) โดยส่งออกไปทั่วโลก มีมูลค่า 11,238 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปี 2561 ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น อาเซียน และออสเตรเลีย โดยแบ่งเป็นประเภท
อาทิ ยางยานพาหนะ สัดส่วนร้อยละ 51 (ของการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางของไทย) ยางสังเคราะห์ สัดส่วนร้อยละ 19 และถุงมือยาง สัดส่วนร้อยละ 11
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter
: @TNNThailand
Line
: @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand