หนุนธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน
ธปท. ร่วมกับ 8 ธนาคารพาณิชย์ ชู ผลิตภัณฑ์การเงินสีเขียว
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดงาน "Financing the Transition: การเงินเพื่อการปรับตัวสู่ความยั่งยืนของภาคธุรกิจ" ในวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ณ ธปท. สำนักงานใหญ่ เพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่สนับสนุนเงินทุนให้ภาคธุรกิจปรับตัวไปสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่เหมาะกับบริบทไทย (โครงการFinancing the Transition)
โดยมีธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) 8 แห่งเข้าร่วมโครงการ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารเกียรตินาคินภัทร ธนาคารทหารไทยธนชาต ธนาคารไทยพาณิชย์ และ ธนาคารยูโอบี รวมถึงมีผู้เข้าร่วมงานจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ หน่วยงานภาครัฐภาคสถาบันการเงิน ภาคธุรกิจ และองค์กรระหว่างประเทศด้วย
ดร. เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของ ธปท. และ ธนาคารพาณิชย์ ที่จะให้ภาคการเงินมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการปรับตัวของภาคธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์ธุรกิจ โดยเฉพาะSMEs ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะทาให้ SMEs เริ่มปรับตัวอย่างจริงจัง
โดยหลักการสำคัญในการปรับตัวที่อยากเน้นย้ำ คือ การคำนึงถึงจังหวะเวลาและความเร็วที่เหมาะกับบริบทของประเทศไทย ซึ่งมีภาคเศรษฐกิจสีน้ำตาลสูง (brown) และมี SMEs จำนวนมากที่ยังไม่สามารถปรับตัวได้ จึงต้องสร้างสมดุลระหว่างการเดินหน้าสู่เป้าหมายด้านความยั่งยืนและการป้องกันผลข้างเคียงเชิงลบที่จะเกิดขึ้นกับภาคส่วนต่าง ๆ
ดังนั้น การสนับสนุนทางการเงินเพื่อการปรับตัวจากธุรกิจที่ยังไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (จาก brown สู่ less brown) หรือ Financing the Transition จึงจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศ ซึ่งอาจต้องเริ่มจากก้าวเล็ก ๆ ให้เกิดขึ้นได้จริงอย่างเป็นรูปธรรมและสามารถขยายผลในวงกว้างได้ โดยในงานนี้ ธพ. ที่เข้าร่วมโครงการได้เสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าอย่างครบวงจรและตรงจุด
นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท. กล่าวถึง เส้นทางการขับเคลื่อนภาคการเงินเพื่อความยั่งยืนของ ธปท. ร่วมกับ ธนาคารพาณิชย์ซึ่งเริ่มจาก
(1) การสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและบทบาทของภาคธนาคารในการสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งในมิติสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ที่เป็นรากฐานสำคัญของการดำเนินธุรกิจภายใต้แนวคิดการธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking)
(2) การกำหนดทิศทางภาคการเงินเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสื่อสารความคาดหวังให้ ธพ. ประเมินโอกาสและความเสี่ยงจากประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สนับสนุนลูกค้าให้ปรับตัวเพื่อเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม
(3) การวางรากฐานสาหรับระบบนิเวศเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ การออกแนวนโยบายของ ธปท. เพื่อให้ ธพ. ผนวกประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจตลอดทั้งกระบวนการ และจัดทำ Thailand Taxonomy
นางสาววิภาวิน พรหมบุญ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ ธปท.สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีทั้งหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนรวม 26 หน่วยงานได้มีการจัดทำThailand Taxonomy ระยะที่ 1 มุ่งเน้นวัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม เฉพาะมิติด้านการลดก๊าซเรือนกระจก (Climate change mitigation) ในภาคพลังงานและภาคการขนส่ง ที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดก่อน และได้เผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 66
โดยในปี 2567 จะมีการทำร่าง Thailand Taxonomy ระยะที่ 2ซึ่งครอบคลุมอีก 4 ภาคส่วนคือ ภาคการผลิต ภาคเกษตร ภาคจัดการของเสีย และ ภาคการก่อสร้าง โดยคาดว่าจะเปิดรับฟังความเห็นได้ใน ไตรมาส 4 ปี 2567