ลาวหนักเงินเฟ้อทำเด็กไม่ได้เรียนอาหารแพง

เว็บไซต์ข่าว Vientiane times รายงานผลการสำรวจของธนาคารโลก ระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2566 พบว่า ร้อยละ 87 ของชาวลาวที่ตอบแบบสอบถาม ได้รับผลกระทบในเรื่องการซื้อหาอาหาร เพราะปัญหาเงินเฟ้อสูงที่เกิดขึ้นในประเทศ ทำให้ประชาชนต้องหันไปซื้ออาหารที่ราคาถูกและลดปริมาณการกินอาหารในแต่ละวัน ขณะที่ครัวเรือนที่ยากจน มีการขายสินทรัพย์ที่มีอยู่ เพื่อประทังชีวิต หรือกู้ยืมมาใช้จ่าย รวมทั้งการลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน และราวร้อยละ14 ของครอบครัวยากจน ไม่สามารถส่งบุตรหลานเรียนต่อได้ 

นายอเล็ก เครมเมอร์ ผู้จัดการธนาคารโลกสาขาสปป.ลาว เปิดเผยว่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจในสปป.ลาว มีความอ่อนไหวอย่างมาก โดยเฉพาะกระทบต่อประชาชน หากครอบครัวไม่สามารถซื้อหาอาหารได้เพียงพอ หรือให้การศึกษาบุตรหลานไม่ได้ จะส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของสปป.ลาวในระยะยาว 

แม้ว่ารัฐบาลจะออกมาตรการหลายอย่างเพื่อ แก้ไขปัญหา เพื่อแก้ไขเงินเฟ้อ เช่นลดการนำเข้าสินค้าฟุ่มเฟื่อย ส่งเสริมการผลิตสินค้าจำเป็นในประเทศ กระตุ้นการท่องเที่ยว และส่งออก ซึ่งช่วยให้รายได้เฉลี่ยประชากรเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5 แต่ก็สู้ไม่ไหวกับเงินเฟ้อในระดับร้อยละ 36 

ธนาคารโลกแนะนำว่า รัฐบาลสปป.ลาว จำเป็นต้องกลับไปใช้นโยบายภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 10 ยกเลิกการลดภาษี ปรับปรุงคุณภาพการลงทุนภาครัฐ และการให้สัมปทาน เพิ่มมาตรการกำกับดูแลธนาคาร เจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และสร้างกฎเกณฑ์การลงทุนของเอกชนให้ง่ายขึ้น 

บทข่าวโดย  สุกัญญา ไชยภาษี 

ดำเนินรายกาาร โดย ธัญวรัตน์ ถาวรโชติวงศ์