การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน อาจส่งผลต่อ Demand ทองคำในจีน

แม้ว่าราคาทองคำจะมีทิศทางลง แต่คาดว่าระยะสั้นราคาทองคำจะ Rebound ขึ้นบริเวณ 1,900-1,910 ดอลลาร์
ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนหลายตัวที่เปิดเผยออกมา ได้สะท้อนถึงภาวะชะลอตัวลงของเศรษฐกิจ โดยตัวเลข GDP ไตรมาส 2/2566 ของจีนที่ขยายตัวเพียง 6.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าอาจขยายตัว 7.3% ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.ของจีนร่วงลง 12.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี จากผลกระทบจากภาวะชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลก การใช้จ่ายของผู้บริโภคชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญในเดือนมิ.ย. และการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์หดตัวลง ส่วน CPI ของจีนล่าสุดปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี จากอุปสงค์ที่อ่อนแอของจีนตลอดช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ผลมาจากการที่รัฐบาลจีนออกมาตรการกระตุ้นอุปสงค์แค่ในวงจำกัด รวมทั้งเป็นผลจากการใช้กฎระเบียบที่เข้มงวด และการทรุดตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดที่อยู่อาศัย ทำให้คาดว่า CPI จีนปีนี้โตเพียง 0.5% ซึ่งจีนมีความเสี่ยงจะเผชิญกับภาวะเงินฝืด
ขณะที่นักวิเคราะห์หลายสำนักก็ต่างพากันปรับลดการคาดการณ์ GDP ของจีน อย่างเช่น เอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) ประกาศลดคาดการณ์ GDP ของจีนในปี 2566 ลงสู่ระดับ 5.2% จากตัวเลขคาดการณ์เดิมที่ระดับ 5.5% โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดการคาดการณ์ GDP จีนปีนี้เหลือ 5.4% จากระดับ 6% ขณะที่เจพีมอร์แกนปรับลด GDP จีนปีนี้ลงเหลือ 5% จากระดับ 5.5% ส่วนมอร์แกน สแตนลีย์ปรับลดตัวเลขคาดการณ์ลงสู่ระดับ 5% จากระดับ 5.7% การปรับลดการคาดการณ์ GDP ลงนั้นมาจากความกังวลว่าการลงทุนและภาคอุตสาหกรรมที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจะเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจจีนให้อ่อนแอลงไปอีก
นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินจากภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน อาจจะสร้างผลกระทบซ้ำเติมเศรษฐจีนเข้าไปอีก หลังจากบริษัทคันทรี การ์เดน (Country Garden) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เอกชนรายใหญ่ที่สุดของจีน ได้ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินดอลลาร์ซึ่งครบกำหนดเมื่อวันที่ 6 ส.ค. ขณะที่ก่อนหน้านี้จีนเคยเผชิญปัญหาภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยเช่นกัน จากที่บริษัทเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ผิดนัดชำระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้สกุลเงินต่างประเทศในช่วง 2 ปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลไปทั่วโลก ทั้งนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนสำคัญในการขยายตัวของเศรษฐกิจจีน และมีสัดส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจสูงเกือบ 30% ทั้งนี้วิกฤต Country Garden จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของตลาดที่อยู่อาศัยของจีน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อที่มีต่อนักพัฒนาภาคเอกชนอ่อนแอลงอย่างมาก เนื่องจาก Country Garden มีโครงการบ้านจัดสรรมากกว่า 3,000 โครงการทั่วประเทศจีน ซึ่งเปรียบเทียบกับ 700 โครงการของ Evergrande ทั่วประเทศจีน ขนาดของหนี้ของทั้งสองให้ภาพที่แตกต่างกัน จากหนี้สินของ Evergrande อยู่ที่ 2.4 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 333 พันล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว ขณะที่ Country Garden มีมูลค่า 200 พันล้านดอลลาร์ ณ สิ้นปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ขนาดโครงการของ Country Garden เป็นสัญญาณเตือนขนาดใหญ่สำหรับภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนและอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนในวงกว้าง ประกอบกับเศรษฐกิจตอนนี้ยิ่งแย่กว่าเมื่อสามปีที่แล้ว จึงยิ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งเศรษฐกิจจีนมีความสัมพันธ์กับอุปสงค์ด้านทองคำ การชะลอตัวลงของภาวะเศรษฐกิจอาจกระทบต่อ demand ทองคำในจีนน้อยลง ซึ่งประเทศจีนถือว่าเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของโลก อย่างไรก็ตาม การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก จากที่เศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งจะส่งผลให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามาได้เช่นกัน
การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจจีน อาจส่งผลต่อ Demand ทองคำในจีน
Gold Bullish
ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย
ความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตภาคธนาคาร
Gold Bearish
การเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
แม้ว่าราคาทองคำจะมีทิศทางลง แต่คาดว่าระยะสั้นราคาทองคำจะ Rebound ขึ้นบริเวณ 1,900-1,910 ดอลลาร์ ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. ดัชนีการผลิตรัฐนิวยอร์กเดือนส.ค. การอนุญาตก่อสร้างบ้านเดือนก.ค. การเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนก.ค. การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.ค. ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนส.ค. และดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนก.ค. โดย conference Board
สัปดาห์นี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,900-1,910 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,930 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,940 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 31,700 บาท และ 31,600 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,000 บาท และ 32,150 บาท
ธนรัชต์ พสวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O