TNN online หุ้นไทยวันนี้มีลุ้นผ่านจุดต่ำสุด

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้มีลุ้นผ่านจุดต่ำสุด

หุ้นไทยวันนี้มีลุ้นผ่านจุดต่ำสุด

หุ้นไทยวันนี้มีลุ้นผ่านจุดต่ำสุด หลังมีแรงหนุนจากพัฒนาการการเมืองในประเทศที่เป็นไปในทางบวกมากขึ้น

บล.กรุงศรี พัฒนสิน มองภาพตลาด “Sideways/Up” มีแรงหนุนจากพัฒนาการการเมืองในประเทศที่เป็นไปในทางบวกมากขึ้น หลังพรรคก้าวไกลมีท่าทีประนีประนอมในประเด็นที่ ส.ว. (ซึ่งพรรคก้าวไกลต้องการเสียงสนับสนุนเพื่อโหวตนายก)  โครงสร้างกลุ่มที่เรามองฟื้นตัวเด่นกว่าตลาด คือ กลุ่มที่ยังปรับตัวลงแรงกว่าตลาด จากความไม่ชัดเจนการเมืองและมีโอกาสได้ประโยชน์นโยบายพรรคก้าวไกล หรือมีปัจจัยหนุนเฉพาะตัวอื่นๆ เช่น กรณีนิคมฯที่ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มขึ้น ผสานปัจจุบันที่ Valuation SET ปัจจุบันอยู่ในโซนไม่แพง อิง BB Consensus ที่ปรับลงเหลือ 95.6 บาท Forward PER’23 ที่ 16+/- เท่า (avg 17.3 เท่า) จำกัด Downside ตลาด และระยะกลางที่ประเทศไทยมีโอกาสได้รัฐบาลที่มีเสถียรภาพ พร้อมผลักดันโครงสร้างเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวเร่ง มองเป็นแรงหนุน SET Index ได้หากการจัดตั้งรัฐบาลไม่ยืดเยื้อ โดยมอง SET กรอบ 1520-1480จุด เริ่มเป็นโซนน่าสนใจต่อการลงทุนเชิงพื้นฐาน


1)หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ให้รอจังหวะสะสม (AOT, ERW, MINT, AMATA,  WHA,  SISB, SPA)  

2)หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง(CRC, HMPRO, ADVANC,  AMATA,  WHA, BBL, KBANK, SCB, TIDLOR)

3)หุ้นลุ้นอานิสงส์นโนบายพรรคก้าวไกล (BBL, ADVANC, CRC, SAWAD, GLOBAL, OSP, MC, TOA, ICHI, AEONTS, KBANK) 

4)Summer Play (OSP,  ICHI,  HMPRO) 

5)หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวกำไร 1Q23F เด่นหรือเป็นจุดเริ่มฟื้นตัวและระยะถัดไปมีแนวโน้มเด่น (ICHI, TOA, MAKRO, ADVANC, OSP, CRC , SCGP, BE8, BBIK)

6)Index Rebalance (MAKRO, WHA) 

7)หุ้นที่ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาขึ้นนานกว่าตลาดคาด (BBL, KBANK, SCB) 

8)ระยะสั้นเก็งกำไรหุ้นที่ Rebound น้อยกว่าตลาด (SAWAD, CENTEL, GUNKUL, SC, AP, GULF, CRC, WHA)

9)หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า (GULF, GPSC) แต่ภายใต้จิตวิทยาลบให้รอจังหวะอ่อนตัวรอลงทุน


ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า SET Index  มีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดระยะสั้นหลังลงมาทดสอบ 1,491 จุด ใกล้ระดับที่ประเมิน หลังแกนนำ 8 พรรค แถลงและลงนามใน MOU ช่วงเย็นวานนี้พรรคก้าวไกลและแกนนำอีก 7 พรรค ร่วมกันแถลง MOU ซึ่งระบุถึงวาระร่วมของพรรคทั้งหมดที่จะร่วมกันผลักดัน 23 ข้อ โดยมีประเด็นสำคัญได้แก่ การแก้รัฐธรรมนูญ, การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม, ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ, เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารจากบังคับเป็นสมัครใจ, ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ, นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติด ฯลฯ เรามองบวกจากการที่ MOU ไม่มีการบรรจุประเด็นที่อ่อนไหว เช่น การแก้มาตรา 112, การเก็บภาษีกำไรจากการซื้อขายหุ้น (Capital gain tax) และ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ (450 บาท/วัน) ทำให้มีโอกาสได้รับการสนับสนุนจากพรรคอื่นๆนอกเหนือกลุ่มพันธมิตรร่วมตั้งรัฐบาล และจากส.ว.


โดยหุ้นไทยอาจตอบรับปัจจัยลบมากเกินไปแล้วในระยะสั้น เมื่อประเมินจาก 

1) ดัชนีปรับลดลงใกล้ 15x PER ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยการซื้อขายช่วง 5 ปี (15-17x PER) 

2) กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวกับการบริโภคในประเทศและท่องเที่ยว มีโมเมนตัมการเติบโตที่แข็งแกร่ง และไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นการเมือง 

3) คะแนนเสียงของพรรคก้าวไกลและเพื่อไทยที่ใกล้เคียงกัน (152 vs 141) ทำให้ในทางปฏิบัติแล้ว ยากที่จะผลักดันนโยบายแบบสุดโต่ง ดังนั้นผลลัพธ์ที่ออกมาจึงอาจไม่แย่หรือเป็นลบมากอย่างที่ตลาดกังวล และ 

4) ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสูตรการจัดรัฐบาล (เช่น เพื่อไทยจับกับพรรคอื่นๆ) ตลาดมีแนวโน้มตอบรับเป็นบวก จากมุมมองของการสนับสนุนตลาดทุนที่มากกว่า (ขณะเดียวกัน มีข่าวลือเกี่ยวกับการยุบพรรคพลังประชารัฐ เพื่อนำส.ส.เข้าร่วมกับเพื่อไทย ซึ่งได้รับการปฏิเสธจากหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในการแถลง MOU)


ภาพรวมกลยุทธ์: มีโอกาสผ่านจุดต่ำสุดในช่วงสั้นไปแล้ว หลังวานนี้ปรับตัวลง 1,491 ซึ่งใกล้เคียงเป้าหมายของเราที่ 1,480-1,490 จุด และเป็นจุดที่เรามองเป็นโอกาส selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ระวังความผันผวนของหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจ // กลุ่มค้าปลีกและท่องเที่ยว ไม่ได้รับผลกระทบจากประเด็นการเมือง ขณะที่สื่อสารและไฟฟ้า มีโอกาสฟื้นตัว หลังตอบรับปัจจัยลบระยะสั้นมากไป


ข่าวแนะนำ