TNN online หุ้นไทยวันนี้ระวังหุ้นกลุ่มพลังงาน

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้ระวังหุ้นกลุ่มพลังงาน

หุ้นไทยวันนี้ระวังหุ้นกลุ่มพลังงาน

หุ้นไทยวันนี้ระวังหุ้นกลุ่มพลังงานถ่วงดัชนี หลังราคาน้ำมัน -2%

บล.กรุงศรี พัฒนสิน มองภาพตลาด “Sideways” สินทรัพย์เสี่ยงสหรัฐฯกลับมากังวลแนวโน้มเศรษฐกิจจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคและกลุ่มธนาคารขนาดกลาง-เล็ก วันนี้คาดจะถ่วงกลุ่มพลังงาน (ราคาน้ำมันปรับฐานราว -2%) และกลุ่มธนาคารที่เป็นกลุ่มหลักของ SET แต่กลุ่มที่เชื่อว่าจะเด่นและช่วยประคองตลาดยังมองกลุ่มอิงภายใน+Defensive (ค้าปลีก สื่อสาร ร.พ.) ผสานกลุ่มที่มีประเด็นเฉพาะตัว อาทิ รายงานกำไร 1Q23 ฟื้นตัวและแนวโน้มระยะถัดไปดีขึ้น (OSP, SCGP), ราคาโภคภัณฑ์หนุน เช่น ราคาน้ำตาลล่าสุดที่ +2.5% (KSL) 


ส่วนระยะกลาง เชื่อว่า SET ยังมีความคาดหวังเชิงบวกจากการนโยบายหาเสียงพรรคการเมืองที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ก่อนการเลือกตั้ง  และภาพเดินหน้าสู่เลือกตั้งใหญ่ระยะถัดไป จะเป็นแรงหนุน SET Index เดินหน้าสู่เป้าปี 2023 ที่ 1768จุด ทั้งนี้  อิง ERP เฉลี่ย 3.35%  โดยปัจจุบันยังให้ลงทุนหุ้นไทยน้ำหนัก 80% แนะนำ


1) หุ้นกลุ่มได้ประโยชน์ China Reopening ที่ลุ้น Upside เพิ่มเติมต่อเศรษฐกิจไทยจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้นมาตรการจำกัดการเดินทางชาวจีนของบางประเทศ คาดจะนำตลาดได้ต่อ ( AOT, AMATA,  WHA, ERW, SISB, SIRI)  

2) หุ้นกลุ่มเก็งกำไรมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐฯ ผสานหุ้น Consumer พื้นฐานมั่นคง (CRC, HMPRO,  CPALL, BJC, ADVANC,  AMATA, SAPPE, BBL, KBANK, SCB)

3) Election Play (ADVANC, INTUCH, PLANB, CPALL, MAKRO, CRC, SAWAD) 

4) Summer Play (OSP,  ICHI, SAPPE,  HMPRO, CRC) 

5) หุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ที่ราคาสินค้าต่างๆยืนสูง (KSL) 


ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย คาดว่า (26 Apr) UTRADE Morning Call - ยังมีโอกาสอ่อนตัวลง เน้นหุ้นที่ผลประกอบการฟื้นตัว ไม่เอาหุ้นที่งบดีสุดไปแล้ว


ความกังวลภาคธนาคารกดดันบรรยากาศ ตลาดหุ้นยุโรปยุโปรปรับลดลงจากความกังวลผลประกอบการของธนาคาร ขณะที่หุ้นสหรัฐฯ กังวลกับประเด็นที่ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก แบงก์ (First Republic Bank) ซึ่งเป็นธนาคารในระดับภูมิภาคของสหรัฐฯ รายงานยอดเงินฝากลดลง 40.8% สู่ 1.045 แสนล้านเหรียญฯ ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.450 แสนล้านเหรียญฯ ทั้งนี้เงินฝากและการให้สินเชื่อที่ชะลอตัวลง ตอกย้ำความกังวลภาคธนาคารจะซ้ำเติมการเกิดเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดในครึ่งปีหลัง


ภาพรวมกลยุทธ์: ยังเน้นเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) โดยเฉพาะสาธารณูปโภคและค้าปลีก และหลีกเลี่ยงหุ้นที่ผ่านช่วงที่ผลประกอบการดีที่สุดไปแล้ว (โดยเฉพาะที่ดีสุดไปแล้วจากช่วง WFH)

ข่าวแนะนำ