ชวนมาเป็นชาวสวน คว้าโอกาสจากวิกฤตหุ้นเวียดนาม
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสำนักงานสถิติเวียดนามประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมีนาคมกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคมลดลงมาอยู่ที่ 3.35% ตัวเลขทางเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงน่าประทับใจดัชนี VNI มีสัญญาณฟื้นตัวปรับเพิ่มขึ้นเป็น +3.89% ในเดือนมีนาคม
หากใครติดตามผมมาตลอดจะทราบดีว่าผมเป็นคนนึงที่เชื่อในหลักการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investing) แนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าไม่ใช่แค่การเลือกหุ้นดีแล้วถือไปนานๆ นะครับ
วันนี้ผมอยากมาชวนทุกท่านให้ลองเป็น ‘ชาวสวน’ กันบ้างนะครับ
นักลงทุนชาวสวน (Contrarian Investor) ถือเป็นหนึ่งกลยุทธ์การลงทุนที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investor) ไม่ควรพลาด เพราะเป็นนักลงทุนที่ใช้กลยุทธ์สวนทางกับความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ในตลาดในช่วงเวลานั้น
นักลงทุนชาวสวนวิกฤตตลาด คืออะไร
อธิบายอย่างง่ายๆ เลยนะครับ กลยุทธ์ลงทุนแทงสวน คือ เมื่อคนส่วนใหญ่ในตลาดคิดว่าช่วงเวลานี้ไม่น่าลงทุน นักลงทุนชาวสวนจะลงทุน และ เมื่อคนส่วนใหญ่ในตลาดคิดว่าช่วงเวลานี้น่าลงทุน นักลงทุนชาวสวนจะขายหุ้น
การลงทุนแทงสวน เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของนักลงทุนชาว VI ด้วย Mindset ว่า ‘เมื่อตลาดหุ้นตกผู้คนจะคิดว่าช่วงเวลานั้นไม่น่าลงทุน แต่มันทำให้หุ้นคุณภาพดีหลายบริษัทราคาถูกมาก เพิ่มโอกาสลงทุนให้โตแบบพุ่งกระฉูดในระยะยาว’
แต่สุดยอดนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่ใช้กลยุทธ์สวนตลาดได้เก่งที่สุด จนทำผลตอบแทนระดับตำนานที่คุณควรรู้จัก คือ John Neff ผู้เป็นหนึ่งในศิษย์เอกของอาจารย์ Benjamin Graham บิดาแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า โดย Neff ทำผลตอบแทนทบต้นเฉลี่ยได้สูงถึง 13.7% ในระยะเวลา 32 ปี เป็นผลตอบแทนระดับตำนานโดยแท้จริง
วิธีคัดเลือกหุ้นของ John Neff
Neff ให้ความสำคัญกับ อัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E Ratio) มากโดย เขาจะลงทุนในหุ้นราคาถูก ที่มีอัตราการเติบโตของกำไรที่สอดคล้องกันไปด้วย สิ่งสำคัญคือ Neff เป็นนักลงทุนที่คิดสวนตลาดอยู่เสมอ เมื่อตลาดขึ้นเขาจะขายหุ้นออกไป แต่เมื่อตลาดลงเขาจะมองหาหุ้นคุณภาพดีมีอนาคต ที่ขายถูกและซื้อหุ้นนั้นเป็นจำนวนมาก ทำให้เขากลายเป็น นักลงทุนชาวสวนในตำนาน ของโลก
การคัดเลือกหุ้นลงทุนแทงสวนตลาดแบบ John Neff มีวิธีดังนี้
● เลือกหุ้นที่มีอัตราส่วน P/E ต่ำ
● เลือกหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของกำไรสม่ำเสมอ
● เลือกหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานที่ดี แข็งแกร่งมั่นคง
จากข้อมูลนี้คุณจะเห็นว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่ามีกลยุทธ์ที่หลากหลาย แต่มีรากฐานคล้ายกัน คือ ‘ลงทุนหุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ การคัดเลือกหุ้นมาลงทุนของ John Neff มีความคล้ายกับการลงทุนใน Jitta Ranking ยิ่งการลงทุนในช่วงตลาดหุ้นตกจะทำให้คุณมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นในระยะยาว แม้เวลานี้ตลาดหุ้นในภาพรวมจะปรับตัวดีขึ้น หลังดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด เริ่มอยู่ในจุดที่สูงมากแล้ว แต่ผมจะพาคุณไปมองหาตลาดที่ยังมีแรงกดดันอยู่อย่างตลาดหุ้นเวียดนาม เพื่อให้คุณได้หาโอกาสทองจากการทดลองกลยุทธ์ชาวสวนดูบ้าง
ตลาดหุ้นเวียดนามยังได้รับแรงกดดันจากภาคอสังหาริมทรัพย์ No Va Land บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เวียดนาม ที่เตรียมขอขยายอายุหนี้เพื่อรักษาสภาพคล่องของบริษัท สะท้อนให้เห็นว่ากำลังเกิดภาวะขาดเงินสดรุนแรง
สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า วิกฤตหนี้อสังหาริมทรัพย์ของเวียดนามกำลังทวีความรุนแรงขึ้น นักวิเคราะห์ต่างๆ ถึงกับออกมาบอกว่า “นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และคาดว่าในอนาคตบริษัทอสังหาฯ อื่นๆ อาจขยายอายุหนี้เช่นเดียวกับ No Va Land”
ปัญหาที่เกิดขึ้นในภาคอสังหาฯ ย่อมส่งผลกระทบทางอ้อมต่อตลาดหุ้นเวียดนามอย่างมีนัยสำคัญ ดัชนี VN Index (VNI) ปรับตัวลดลงที่ -7.95% ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในมุมมองคนทั่วไปที่อยู่ในตลาดอาจกำลังหวาดกลัวจนไม่กล้าลงทุนต่อ แต่นี่เป็นเพียงแค่ข่าวมิติเดียวเท่านั้น
ข่าวร้ายขายดีกว่าข่าวดีเสมอ ข่าวร้ายเหล่านี้อาจบังตาคุณจนทำให้คุณเสียโอกาสลงทุนไปอย่างน่าเสียดาย
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาสำนักงานสถิติเวียดนามประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือนมีนาคมกลับมาฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อเดือนมีนาคมลดลงมาอยู่ที่ 3.35% ตัวเลขทางเศรษฐกิจของเวียดนามยังคงน่าประทับใจดัชนี VNI มีสัญญาณฟื้นตัวปรับเพิ่มขึ้นเป็น +3.89% ในเดือนมีนาคม
ข่าวดีดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าปัญหาภาคอสังหาฯ แทบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของเวียดนามเลย รวมไปถึงหุ้นในอุตสาหกรรมอื่นๆ หรืออุตสาหกรรมเดียวกันที่ไม่ได้ประสบปัญหาเหมือนบริษัท No Va Land
จากข่าวร้ายเกี่ยวกับ No Va Land ทำให้นักลงทุนตกใจกลัวจนราคาหุ้นเวียดนามอื่นๆ ปรับตัวลงในระยะสั้น แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานบริษัทอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย อ่านมาถึงจุดนี้คุณเริ่มเห็นโอกาส ‘ลงทุนหุ้นเวียดนาม’ มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อได้กลยุทธ์ชาวสวนไปเป็นเครื่องมือด้วยแล้ว นี่อาจเป็นโอกาสทองของคุณแล้วก็ได้นะครับ แทงสวนตลาด สะสมหุ้นเวียดนามราคาถูก
มาครับ หลังจากที่คุณได้รู้จักกลยุทธ์ลงทุนสวนตลาด และรู้จักกับนักลงทุนชาวสวนในตำนานอย่าง John Neff แล้ว Jitta Wealth อยากพาคุณไปสำรวจ 3 หุ้นที่ติดอันดับ Jitta Ranking เวียดนาม ว่าจะเป็น ‘หุ้นคุณภาพดี ราคาถูก’ ในแบบที่นักลงทุนชาวสวนชื่นชอบหรือไม่
การสำรวจปัจจัยพื้นฐานของทั้ง 3 หุ้นเวียดนามที่ติดอันดับ Jitta Ranking ทีมงานจะสำรวจตาม 4 งบการเงินเบื้องต้นนั่นคือ
● มูลค่ามาร์เก็ตแคป บอกถึงขนาดของบริษัท
● อัตราส่วน P/E บอกว่าหุ้นตัวนี้ถูกหรือแพง
● อัตราส่วน ROE ความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
● กำไรสุทธิ 5 ปี บอกอัตราการเติบโตของกำไร
การสำรวจ 3 หุ้นครั้งนี้เป็นการสำรวจ ณ วันที่ 10 เมษายน 2566 อันดับหุ้นใน Jitta Ranking อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทุกวัน แต่หากพื้นฐานหุ้นไม่เปลี่ยนไปและยังไม่มีหุ้นที่น่าลงทุนมากกว่า AI หุ้นดังกล่าวก็จะไม่หลุดออกจากอันดับ Jitta Ranking
Asia Commercial Joint Stock Bank (ACB)
ธนาคารเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ ACB ให้บริการผลิตภัณฑ์และบริการด้านการธนาคารพาณิชย์แก่ลูกค้าแบบครบวงจร
ส่องงบหุ้น ACB จากงบปี 2565
● อัตราส่วน P/E อยู่ที่ 5.46
● อัตราส่วน ROE อยู่ที่ +26.5% เติบโต +10.83%yoy
● กำไรสุทธิ 13.69 ล้านล้านดอง เติบโตทบต้นเฉลี่ย +45.22% ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี
● มูลค่ามาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 84.6 ล้านล้านดองเวียดนาม ≈ 3,408 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Central Pharmaceutical Joint Stock Company No3 (DP3)
บริษัทผู้ดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมยามีธุรกิจหลักคือ การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ยกตัวอย่างเช่น ยาสมุนไพรและยาประเภทอื่นๆ รวมไปถึงอาหารเสริมเพื่อสุขภาพและความงาม รวมไปถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์อีกด้วย
ส่องงบหุ้น DP3 จากงบปี 2565
● อัตราส่วน P/E อยู่ที่ 7.82
● อัตราส่วน ROE อยู่ที่ +27.8% เติบโต +6.48%yoy
● กำไรสุทธิ 108,824 ล้านดอง เติบโตทบต้นเฉลี่ย +23.20% ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี
● มูลค่ามาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 860,900 ล้านดองเวียดนาม ≈ 36.70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Dong Nai Port Joint Stock Company (PDN)
บริษัทผู้ครอบครองและบริหารท่าเรือ Dong Nai ในเวียดนาม ให้บริการคลังสินค้า และบริการขนถ่ายสินค้า ตู้คอนเทนเนอร์ และขนส่ง ตัวแทนและบริการปฏิบัติการเดินเรือ ตลอดจนการค้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมอื่นๆ
ส่องงบหุ้น PDN จากงบปี 2565
● อัตราส่วน P/E อยู่ที่ 12.60
● อัตราส่วน ROE อยู่ที่ +30.2% เติบโต +28.82%yoy
● กำไรสุทธิ 234,152 ล้านดอง เติบโตทบต้นเฉลี่ย +25.08% ต่อปี ระยะเวลา 5 ปี
● มูลค่ามาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 2.8 ล้านล้านดองเวียดนาม ≈ 119 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
3 หุ้นเวียดนามที่อยู่ใน Jitta Ranking เวียดนาม ตรงกับเกณฑ์การคัดหุ้นของ John Neff
หุ้นทั้ง 3 อาจจะเป็นหุ้นที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังไม่รู้จัก เป็นโอกาสที่ควรคว้าเอาไว้ก่อนใคร ก่อนที่คนในตลาดจะรู้ และหุ้นจะปรับตัวขึ้นไปสู่มูลค่าที่แท้จริงในที่สุด
ทั้งหมดนี้คือ คำตอบว่าทำไมคุณถึงควร ‘ลงทุนหุ้นเวียดนาม’ ตอนนี้ ในขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่กำลังกลัว หากคุณมีความกล้าที่จะคว้าโอกาสแทงสวนตลาด อาจจะเป็นการตัดสินใจที่ทำให้คุณยิ้มได้ในระยะยาวก็ได้
หากคุณลงทุนใน Jitta Ranking เวียดนาม อยู่แล้วก็สบายใจได้เลย เพราะคุณจะได้ลงทุนหุ้นคุณภาพดี ราคาถูกอยู่เสมอ พอร์ตลงทุนของคุณจะไม่ตกยุค เพราะ AI จะคอยสอดส่องและปรับพอร์ตทุก 3 เดือน อีกทั้งยังปรับสัดส่วนลงทุนหุ้นแต่ละบริษัทอย่างเหมาะสมให้ด้วย
การลงทุนแบบเน้นคุณค่ามีกลยุทธ์มากมายหลายประเภท บางประเภทอาจต้องอาศัยความกล้า ความเข้าใจ และความเชื่อมั่น หากคุณมั่นใจว่าจิตใจคุณแข็งแกร่งพอการใช้กลยุทธ์ลงทุนสวนตลาด อาจเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณที่จะลงทุนหุ้นเวียดนามในตอนนี้ โอกาสลงทุนมีอยู่เสมอสำหรับคนที่มองเห็น ถ้าเห็นแล้วก็อย่าปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปนะครับ
ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์
CEO Jitta Wealth
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O
