ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเข้าซื้อทองคำอย่างแข็งแกร่งตั้งแต่ต้นปี ซื้อสุทธิมากสุดนับตั้งแต่ปี 2553
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากที่วันศุกร์เริ่มมีสัญญาณปรับฐานลง ทั้งนี้คาดว่าทองคำมีแนวรับที่ 1,990 ดอลลาร์ซึ่งเป็น SMA 20 วัน ถ้าหลุดมีแนวรับถัดไปที่ 1,970 ดอลลาร์
ถ้าย้อนไปดูข้อมูลเมื่อปีที่แล้วคงเป็นที่ทราบกันดีว่าธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเป็นทุนสำรองมูลค่ามากสุดในรอบ 55 ปีนับตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งซื้อรวมกันมากถึง 1,136 ตัน หรือมูลค่า 7 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยได้เข้าซื้อทองคำเป็นทุนสำรองเพิ่มขึ้นกว่า 152% จากที่ปี 2564 มีการเข้าซื้อทองคำ 450.1 ตัน และนับว่าเป็นปีที่มียอดซื้อสุทธิสูงสุดเป็นอันดับ 2 รองจากปี 2510 โดยเฉพาะความต้องการซื้อในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ที่มีการซื้อทองคำรวมกันกว่า 862 ตัน แต่การเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางในปีนั้น ส่วนใหญ่มาจากประเทศจีน ตุรกี ที่เข้าซื้อทองคำมากที่สุด หากใครได้ติดตามบทความกับทางฮั่วเซ่งเฮงก็จะทราบว่า เราได้เคยคาดการณ์ในปี 2566 ว่าธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว
และข้อมูลเกี่ยวกับรายงานเปิดเผยการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกนับตั้งแต่ต้นปี ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดของช่วงเดือนม.ค. และก.พ. นั้น ก็ได้สร้างความน่าสนใจมากทีเดียว พบว่ายอดเข้าซื้อสุทธิของทองคำแข็งแกร่งมาก โดยยอดรวม 2 เดือน (ม.ค.-ก.พ.) มากกว่าทุกปีนับตั้งแต่ปี 2553 โดยการซื้อทองคำสุทธิเพิ่มขึ้น 52 ตันในเดือนก.พ. ส่วนเดือนม.ค. ซื้อสุทธิ 74 ตัน และถือว่าเป็นการซื้อสุทธิติดต่อกันเป็นเดือนที่ 11 แล้ว
ที่มา gold.org
ธนาคารกลางจีนและธนาคารกลางตุรกียังคงเป็นพระเอกในการเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเช่นเดิมจากปีที่ผ่านมา โดยธนาคารกลางจีนยังเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 25 ตันในเดือนก.พ. ถือว่าเป็นการเข้าซื้อติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 นับตั้งแต่เดือนพ.ย. ปี 2565 โดยมียอดสะสมเข้าซื้อในช่วงเวลา 4 เดือนเพิ่มขึ้นกว่า 102 ตัน ขณะที่ธนาคารกลางตุรกีก็ยังคงซื้อต่อเนื่องเช่นเดิม ติดต่อกัน 15 เดือน คิดเป็น 33% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ ส่วนอีกหนึ่งประเทศที่มีการรายงานเข้ามาครั้งแรกในรอบ 1 ปี นั่นคือ รัสเซีย ที่เข้าซื้อทองคำกว่า 31 ตันในเดือนก.พ.
ทั้งนี้ คาดว่ารัสเซียอาจมีการเข้าซื้อสะสมไว้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครน แต่รัสเซียอาจไม่ได้มีการรายงานออกมา จึงไม่ทราบว่ารัสเซียได้ซื้อทองคำในช่วงเดือนไหน หรือจำนวนเท่าใด จึงนับยอดเข้าซื้อทองคำของรัสเซียในเดือนที่รัสเซียมีการเปิดเผยออกมาครั้งแรกในเดือนนั้น
การตัดสินใจในการเข้าซื้อทองคำของธนาคารกลางทั่วโลกนั้น ได้สะท้อนให้เห็นว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์น่าสนใจ เพราะทองคำสามารถป้องกันความไม่แน่นอนของภาวะสงคราม ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และความกังวลของการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
แนวโน้มราคาทองคำคาดปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากที่วันศุกร์เริ่มมีสัญญาณปรับฐานลง ทั้งนี้คาดว่าทองคำมีแนวรับที่ 1,990 ดอลลาร์ซึ่งเป็น SMA 20 วัน ถ้าหลุดมีแนวรับถัดไปที่ 1,970 ดอลลาร์ ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างบ้านและการเริ่มก่อสร้างบ้านเดือนมี.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนเม.ย. ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนมี.ค. โดย conference Board ดัชนี PMI ภาคการผลิตและดัชนี PMI ภาคบริการเดือนเม.ย. นอกจากนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของเฟด 12 เขต (Beige Book)
ต้นปีธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำมากสุดนับตั้งแต่ปี 2553
Gold Bullish
ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย
ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน
หนี้สหรัฐชนเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
การชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
Gold Bearish
การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น
การคลายความกังวลของวิกฤตภาคธนาคาร
ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,990 ดอลลาร์ และ 1,970 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,020 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,030 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 32,400 บาท และ 32,200 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 32,900 บาท และ 33,000 บาท
ธนรัชต์ พสวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O