หุ้นไทยวันนี้ คาดตลาด “Sideways Up”

บล.กรุงศรี พัฒนสิน  คาดตลาด “Sideways Up” ต้าน 1598/1607 จุด รับ 1586/1577 จุด ทิศทางเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน มี.ค. 2023 ที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าตามคาด ตอกย้ำวงจรดอกเบี้ยสหรัฐขาขึ้นเป็นปลายทาง ส่วนฝั่ง ASIA การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของผู้นำกลุ่มออกมาเชิงบวก ล่าสุด จีนรายงานยอดส่งออก เดือน มี.ค. ขยายตัวครั้งแรกนับแต่ ก.ย.22  หนุนเศรษฐกิจและการค้าฝั่ง EM-ASIA  

ส่วนภายในสัปดาห์นี้เข้าสู่ช่วงรายงานงบ 1Q23 เริ่มจากกลุ่มธนาคาร ที่น่าจะมีแรงเก็งกำไร หลัง 3 หุ้นธนาคารสหรัฐ อาทิ JP Morgan , Citi Bank, Well Fargo  รายงานงบ 1Q23 ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด(Beat estimate)  และในงบการเงินไม่มีตัวแปรลบ ที่จะนำไปสู่ความเสี่ยงเชิงระบบของภาคธนาคาร ในเชิงกลยุทธ์ ประเมินวันนี้กลุ่มนำตลาด คือ กลุ่มธนาคาร(เก็งกำไรงบ), กลุ่มเครื่องดื่ม(หน้าร้อน), กลุ่มพลังงาน(ตามน้ำมันดิบที่ปรับขึ้น) วันนี้แนะนำ: BBL, ICHI, PTTEP                                                                                                                                                                       

ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) คาดตลาดเคลื่อนไหวในกรอบจำกัด โดยมีประเด็นเฝ้าระวังคือการประชุมเฟด 3 พ.ค. ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยรวมผสมผสาน แต่ความคาดหวังการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมรอบต่อไปสูงถึง 80% นอกจากนี้ คำเตือนของ CEO JPM ที่ประเมินดอกเบี้ยเฟดอาจขึ้นไปใกล้ 6% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดประเมินที่ 5.25% ทำให้แม้เรามองตลาดมีโอกาสฟื้นตัวหลังสงกรานต์ แต่ต้องระวังภาพรวมที่นักลงทุนอาจผิดหวังมุมมองดอกเบี้ยหากเฟดไม่ได้ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมที่จะถึงนี้

กลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการสัปดาห์นี้ เราคาดกำไรไตรมาส 1/66 ของกลุ่มธนาคาร จะปรบตัวลดลง 7% YoY โดยหลักจากกำไรจากการลงทุนที่ลดลง แต่เพิ่มขึ้น +25% QoQ จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาล รวมถึงกำไรที่ฟื้นตัวของธนาคารใหญ่ที่ตั้งสำรองมากผิดปกติในไตรมาสก่อนหน้า ทั้งนี้ราคาหุ้นในกลุ่มที่คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง (BBL, KTB, TISCO และ TTB) ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ทำให้อัพไซต์ในหุ้นดังกล่าวมีจำกัด ทั้งนี้เราให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มธนาคารเป็นเท่าตลาด (Market weight) โดยเลือกหุ้นที่ยัง Laggard โดยมีหุ้นเด่นคือ SCB และ KKP

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,580-1,620 จุด แม้ภาพรวมตลาดระยะสั้นยังอาจผันผวนจากปัจจัยต่างๆที่เข้ามากระทบ การเก็งกำไรระยะสั้น อาจเลือกไฟแนนซ์ตัวเล็กที่ยัง Laggard  น้ำตาลและกลุ่มไฟฟ้าหมุนเวียน (ที่มีรายได้งานก่อสร้าง/EPC)  ขณะที่การลงทุนเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned)