TNN หุ้นไทยวันนี้มีลุ้น

TNN

Wealth

หุ้นไทยวันนี้มีลุ้น

หุ้นไทยวันนี้มีลุ้น

หุ้นไทยวันนี้ลุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงานช่วยประคองตลาด

บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดตลาด “Sideways/Up” ต้าน 1587/1593จุด รับ 1567/1561จุด การเคลื่อนไหวสินทรัพย์เสี่ยง ยังมีแรงหนุนเชิงบวกจากการแก้ไขปัญหากลุ่มธนาคารฝั่งตะวันตก ลดความกังวลต่อเศรษฐกิจโลกในระยะสั้น หนุนราคาโภคภัณฑ์ฟื้นตัว ขณะที่หุ้นธนาคารสหรัฐฯและยุโรปอื่นๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง หนุนกลุ่มธนาคารและพลังงานไทยที่มีน้ำหนักรวม 29.3% ของ SET ประคองตลาด ขณะที่การประชุม Fed วันนี้คาดจะคงหรือขึ้นดอกเบี้ยไม่เกิน 25bps จะเป็นภาพบวกต่อตลาดรวม ผสานหุ้นกลุ่มอิงการเศรษฐกิจภายใน (สื่อสาร, ค้าปลีก) คาดการณ์เม็ดเงินช่วงก่อนการเลือกตั้ง 14 พค 2023 จะสะพัดกว่า 1-1.2 แสนล้านบาท เป็นภาพบวกต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจภายใน และหนุนตลาดวันนี้แกว่งขึ้น หุ้นแนะนำ: AOT, SCB, SCGP


ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุตลาดตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้ว ขณะที่ไม่มีความเสี่ยงใหม่ที่อยู่นอกความรับรู้ บรรยากาศลงทุนในตลาดต่างประเทศเห็นการฟื้นตัวขึ้น หลังจากนักลงทุนตอบรับความเสี่ยงเกี่ยวกับภาคธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรปไปมากแล้ว ขณะที่ล่าสุด รมว.คลัง สหรัฐฯ ออกมายืนยันถึงการเพิ่มการคุ้มครองเงินฝากให้กับผู้ฝากเงินของธนาคารอื่นๆ (ซึ่งอาจเป็นการปรับเพิ่มยอดค้ำประกัน หรือค้ำประกันทั้งจำนวน) น่าจะช่วยหยุดภาวะวิตกกังวลของภาคธนาคารในระยะสั้นไปได้ ขณะที่ความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นการพบกันของประธานาธิปดีสีจิ้นผิง ของจีน กับประธานาธิปดีปูติน ของรัสเซีย หรือการที่สหรัฐฯ จะเพิ่มข้อจำกัดเกี่ยวกับบริษัทสหรัฐฯ ที่ทำการผลิตชิปในจีน แต่ไม่ถือเป็นความเสี่ยงใหม่


คาดตลาดตอบรับเชิงบวกไม่ว่าเฟดจะขึ้นหรือคงดอกเบี้ย ซึ่งจะดีกว่าการปรับลด การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสหรัฐฯ (FOMC) ประชุมคืนนี้ ตลาดคาดเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ด้วยความน่าจะเป็น 86.4% (ขณะที่ตรึงดอกเบี้ยเท่าเดิมที่ 13.6%) ด้วยกลไกของการโยกย้ายเงินทุนระหว่างหุ้นกับตราสารหนี้ เรามองการขึ้นดอกเบี้ย หรือคงดอกเบี้ย จะบวกต่อตลาดมากกว่าปรับลด เนื่องจาก 1) การขึ้นดอกเบี้ย เป็นการรักษาเครดิตของเฟดในการสื่อสารกับตลาด 2) การขึ้นดอกเบี้ย เป็นการแสดงความเชื่อมั่นถึงความแข็งแกร่งของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธนาคาร 3) การลดดอกเบี้ย อาจสร้างความกังวลให้กับตลาดมากกว่าผลดีที่จะได้ และจะยิ่งเร่งให้เงินออกจากหุ้น เข้าตราสารหนี้ // ดังนั้นเราคาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และเน้นส่งสัญญาณ “ตรึงดอกเบี้ย” เป็นระยะเวลานานเพื่อคุมเงินเฟ้อ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าว จะช่วยให้ allocation ของเงินที่จะเข้าตลาดพันธบัตร มีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และตลาดหุ้นรวมถึงสินทรัพย์เสี่ยงจะมีโอกาสฟื้นตัว

ภาพรวมกลยุทธ์: ติดตามการส่งสัญญาณยืนยันไม่ลดดอกเบี้ยของเฟดในการประชุม 22 มี.ค.นี้ จะหนุนการฟื้นตัวของหุ้น ทยอยสะสมเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, ROJNA, SAMART, SDC เป็นต้น

ข่าวแนะนำ