TNN online หุ้นไทยวันนี้ คาดตลาด “ฟื้นตัว”

TNN ONLINE

Wealth

หุ้นไทยวันนี้ คาดตลาด “ฟื้นตัว”

หุ้นไทยวันนี้ คาดตลาด “ฟื้นตัว”

หุ้นไทยวันนี้ คาดตลาด “ฟื้นตัว” ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มกลับตัวแข็งค่า

บล.โนมูระ พัฒนสิน  คาดตลาด “ฟื้นตัว” ต้าน 1628/1635จุด รับ 1614/1609จุด สินทรัพย์เสี่ยงโลกปกคลุมด้วยแรงกดดันจาก Bond Yield สหรัฐฯ 10ปี ขึ้นทดสอบ 4.0% หลังวานนี้คณะกรรมการ Fed บางท่านแสดงท่าที Hawkish เปิดทางเลือกเพิ่มดอกเบี้ย 50 bps ในรอบ มี.ค. แต่ภาพ Dollar Index กลับไม่แข็งค่าขึ้น อีกทั้งยังอ่อนค่าลงสู่ 104.4จุด สะท้อนตลาดตอบรับความเสี่ยงนี้ไปมากแล้ว ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มกลับตัวแข็งค่า 34.7 +/- บาทต่อเหรียญฯ จากเศรษฐกิจไทยได้อานิสงค์ PMI ของจีนที่ดีกว่าคาด สะท้อนเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวเร่งขึ้น ขณะที่กำไรตลาดหุ้นไทย 4Q22 หากกลับรายการพิเศษหลักๆ จะเห็นฐานกำไรปกติจริงๆ กว่า 2แสนล้านบาท สะท้อนกำไรปี 2022 ยังทำได้ดีกว่า 1ล้านล้านบาท และจะเร่งขึ้นในปี 2023 ประเด็นดังกล่าวน่าจะลดแรงขายนักลงทุนต่างชาติได้ SET กำลังจะฟื้นตัว หุ้นอิงภายใน/China Reopening/Election เด่น แนะ  ICHI, SAWAD, SCB


ด้าน บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุว่า PMI จีนที่ดีกว่าคาดหนุนบรรยากาศของหุ้นภูมิภาค ช่วงเช้าวานนี้ จีนรายงาน PMI ก.พ.ที่ 56.4 สูงกว่าม.ค.ที่ 52.9 และเป็นการดีขึ้นกว่าคาดทั้งภาคการผลิต (52.6 vs คาดการณ์ 50.6) และภาคบริการ (56.3 vs คาดการณ์ 54.9) ทั้งนี้ตัวเลข PMI ที่ดีกว่าคาด ส่งสัญญาณยืนยันถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องหลังการเปิดประเทศของจีน ส่งผลบวกต่อการปรับเพิ่มคาดการณ์ทางเศรษฐกิจจากหลายสำนัก (ล่าสุดคือ Moody ที่ปรับเพิ่ม GDP จีนปี 66 ขึ้นเป็น 5% จากเดิม 4%) ซึ่งเป็นโมเมนตัมที่ต่อเนื่องมาจากรายงานเศรษฐกิจของ IMF (WEO Jan 2023) เมื่อช่วง ม.ค.66 ที่ผ่านมา สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลบวกต่อทิศทางเงินทุนในเอเชีย และส่งผลให้สกุลเงินเอเชีย รวมถึงค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทั้งนี้ แม้จะยังเห็นการขายสุทธิในหุ้นไทย แต่ในฝั่งตลาดตราสารหนี้เริ่มเห็นการกลับเข้าซื้อสุทธิ 2,553 และ 5,391 ล้านบาท ในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา ทั้งนี้หากไม่ได้มีปัจจัยใหม่ที่เพิ่มความกังวลให้กับตลาด เรามองค่าเงินบาทน่าจะเริ่มมีเสถียรภาพ ซึ่งจะทำให้การปรับพอร์ตของต่างชาติน่าจะเริ่มชะลอ


ภาพรวมกลยุทธ์: ยังลุ้นว่าน่าจะใกล้จุดฟื้นตัว แต่ภาพระยะกลางเริ่มมีความไม่ชัดเจน โดยต้องรอประเมินจากการกลับไปทดสอบ 1,645-1,650 จุด   การเก็งกำไรระยะสั้นเน้น selective buy กลุ่มที่น่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ชัดเจนในปี 2566 และยังมีการถือครองที่ต่ำ (Underowned) ได้แก่ และหุ้นที่มีปัจจัยบวกรายตัว โดยหุ้นที่เรามองสามารถทยอยสะสม ได้แก่ MAJOR, CPALL, MAKRO, BJC, PTTGC, IRPC, TIDLOR, AMANAH, MILL, TSTH, KSL, ROJNA, SAMART, SDC เป็นต้น 


ข่าวแนะนำ