TNN online การขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่า 5.50% จะส่งผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

TNN ONLINE

Wealth

การขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่า 5.50% จะส่งผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

การขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่า 5.50% จะส่งผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นักลงทุนส่วนใหญ่กว่า 73% ยังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.75%-5.00% ในการประชุมเดือนมี.ค.นี้

ราคาทองคำยังคงปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 จากที่นักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยนักลงทุนให้น้ำหนัก 27.0% ที่คาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนมี.ค. จากเดิมเดือนที่แล้วให้น้ำหนักเพียง 2.8% 


อย่างไรก็ตามนักลงทุนส่วนใหญ่กว่า 73% ยังคงคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทำให้อัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 4.75%-5.00% ในการประชุมเดือนมี.ค.นี้ ทั้งนี้การที่นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดมากขึ้นมาจากสาเหตุของอัตราเงินเฟ้อที่เปิดเผยล่าสุดนั้นยังคงอยู่ในระดับสูง และสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตามยังคาดว่าในปีนี้เงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มที่จะลดลง ซึ่งดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิตได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้วแตะ 9.1% และ 11.3% เมื่อเทียบรายปี และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง


ทั้งนี้เรายังคงให้มุมมองเช่นเดิมว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้จะอยู่ที่ระดับสูงสุด 5.25%-5.50% แม้ว่านักลงทุนจะให้น้ำหนักมากขึ้นต่อการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดก็ตาม เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยที่สูงกว่า 5.50% จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่มีความเสี่ยงจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดพันธบัตรสหรัฐได้เกิดภาวะ inverted yield curve โดยอัตราผลตอบแทนพันบัตรอายุ 2 ปีปรับตัวขึ้นสู่ 4.8% และอยู่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีที่ระดับ 3.95% ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ถึงแม้ว่าการคาดการณ์ว่าเฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย กดดันราคาทองคำให้มีทิศทางขาลง แต่ความกังวลด้านการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอาจส่งผลให้ราคาทองคำเริ่มปรับตัวลงอย่างมีกรอบจำกัด และอาจจะกลายเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 


ราคาทองคำคาดจะสร้างฐานบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ ทั้งนี้สามารถเข้าซื้อทองคำระยะสั้นบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ และ 1,790 ดอลลาร์ ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค.  ยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนม.ค. ดัชนี PMI เขตชิคาโกเดือนก.พ. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. โดย Conference Board ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนก.พ.โดย ISM และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์


การขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่า 5.50% จะส่งผลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย


Gold Bullish 

   ภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอย

   ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ได้แก่ สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ทวีความรุนแรงขึ้น ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน

   หนี้สหรัฐชนเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ


Gold Bearish 

   การเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครนที่มีความคืบหน้ามากขึ้น

   การปรับเพิ่มมุมมองคาดการณ์การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด

   ดอลลาร์แข็งค่า จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาอย่างแข็งแกร่ง


ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่  1,800 ดอลลาร์ และ 1,790 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,840 ดอลลาร์ และแนวต้าน 1,850 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,900 บาท และ 29,750 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 30,250 บาท และ 30,400 บาท


ธนรัชต์ พสวงศ์ 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง


ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD                           

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวแนะนำ