เปิดแนวคิด "นพ.ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล" กับธุรกิจความงามในตลาดทุน

ตลาดหุ้นไทยคึกคักตั้งแต่ต้นปี เมื่อโรงพยาบาลด้านศัลยกรรมความงามรายแรกในตลาดทุนไทย บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) (MASTER) หรือ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช (Masterpiece Hospital) ของ "นายแพทย์ระวีวัฒน์ มาศฉมาดล" หรือ "หมอเส" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท MASTER ที่ประเดิมเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หมวดธุรกิจบริการ ในวันที่ 25 มกราคม 2566 โดยใช้ชื่อย่อว่า “MASTER”

การนำธุรกิจความงามเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ "หมอเส" กล่าวว่า เกิดจากการเตรียมพร้อมเพื่อการเติบโตมาตลอดกว่า 9 ปี เขามีแผนที่จะขยายธุรกิจในแนวลึก ทั้งการขยายพื้นที่ให้บริการ และการลงทุนด้านเทคโนโลยี เพื่อยกระดับมาสเตอร์พีชให้โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามครบวงจร

"หมอเส" ยังระบุว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในองค์กรจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร วิธีคิดและวิธีทำงานยังคงเหมือนเดิม คือ การใช้เงินอย่างระมัดระวัง ส่วนสิ่งที่เปลี่ยนแปลงหลักๆ คือ การขยายพื้นที่ให้บริการ เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก การการลงทุนด้านเทคโนโลยี โดยขยายพื้นที่โรงพยาบาลออกไปอีก 3 ไร่ครึ่งจากเดิมมีอยู่ประมาณ 1 ไร่ เพิ่มห้องผ่าตัด ห้องพักฟื้น และอื่นๆ อีกเท่าตัว

สาเหตุที่ "หมอเส" ยังไม่มองเรื่องการขยายสาขา เพราะมองว่าการขยายสาขาต้องใช้เวลาเยอะ และต้องลงทุนจำนวนมาก ในขณะที่ลงทุนในที่เดิมให้แข็งแกร่งขึ้น จะทำให้สร้างผลกำไรได้ดีกว่า

นอกจากนี้ "หมอเส" ยังมีมุมมองในการขยาย capacity ที่แตกต่าง ซึ่งโดยธุรกิจโรงแรมหรือคนอื่นๆ อาจมองว่า เมื่อมีอัตราเข้าใช้บริการถึง 90% จึงควรขยาย แต่สำหรับ "หมอเส" นำกระบวนการ Lean Process เข้ามาใช้ โดยมองว่า ถ้าจำนวนห้องผ่าตัด กับจำนวนแพทย์ที่ใช้อยู่ที่ประมาณ 40-50%

นั่นแปลว่ารายได้ของธุรกิจศัลยกรรม จะสามารถเพิ่มขึ้นได้สองเท่า เพราะถ้าแพทย์เนหนึ่ง เข้าห้องผ่าตัดรายที่หนึ่ง ออกมาแล้วต้องไปต่อคิวรอกว่าจะได้ผ่าตัดรายใหม่ นั่นแสดงว่าแพทย์เเสียโอกาสไปเยอะ แต่ถ้าวันไหนที่แพทย์เข้าห้องผ่าตัดนี้เสร็จแล้วออกมาต่อที่อีกห้องได้เลย คนไข้ก็สะดวก หมอก็สะดวก เพราะเสียเวลาน้อย และตรงนี้จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับองค์กรด้วย

ช่วงที่ผ่านมา ธุรกิจของ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด โดยปี 2565 เติบโตมากถึง 100% สาเหตุที่ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีชสามารถขยายตัวได้สูง "หมอเส" อธิบายว่า การทำธุรกิจศัลยกรรมให้เติบโต ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจสามารถสเกลได้ไหม เพิ่มแพทย์ได้ไหม แพทย์ทำงานได้เร็วไหม และอีกส่วนที่สำคัญคือ สามารถทำให้ทุกคนเข้าถึงได้หรือไม่ ในราคาที่เหมาะสม ซึ่งโรงพยาบาลมาสเตอร์พีชสามารถทำได้ทั้งสองส่วน

หลังการเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai "หมอเส" ประเมินว่า จะสามารถเติบโตได้อีกไม่ต่ำกว่า 40% จากการขยายพื้นที่บริการ และจากลูกค้าใหม่ที่เพิ่มเข้ามา และในอนาคต หากมีโอกาสใหม่ๆ ทางธุรกิจที่น่าสนใจ ก็พร้อมเปิดรับเพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ

สำหรับธุรกิจศัลยกรรมเป็นธุรกิจที่เติบโตต่อเนื่อง โดยสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งอาเซียน ได้ประเมินมูลค่าตลาดในช่วงก่อนการแพร่ระบาดโควิด -19 ปี 2563 ว่ามีมูลค่าสูงถึง 4.5 หมื่นล้านบาท และหลังจากโควิดคลี่คลาย ไทยเปิดประเทศ ทั่วโลกเริ่มกลับมาเดินทางได้ปกติ ธุรกิจศัลยกรรมของประเทศไทยก็มีแนวโน้มขยายตัวทันที โดยลูกค้าชาวต่างชาติที่เข้ามารับบริการทำศัลยกรรมความงามในประเทศไทย กลุ่มใหญ่ คือ กัมพูชา ออสเตรเลีย ลาว และเมียนมา