ทองคำอาจเกิดพักฐานระยะสั้น แต่ยังน่าสนใจในระยะยาว

ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับแรงซื้อที่ลดลง จึงคาดว่าระยะสั้นราคาทองคำเริ่มปรับฐาน จึงแนะนำให้เริ่มทยอยขายทำกำไร
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน ทั้งนี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 3 จากการคาดว่าเฟดจะชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และแรงซื้อทองคำของคนจีนก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า แม้ว่าราคาทองคำจะพยายามดีดตัวสูงขึ้นในระดับสูงสุดกว่าวันก่อนหน้า แต่แรงซื้อทองคำก็เริ่มลดลง ทำให้เริ่มเกิดสัญญาณ bearish divergence
ซึ่งในช่วงสัปดาห์นี้ตลาดการเงินจีนปิดทำการ เนื่องด้วยวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน จีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก จึงอาจขาดแรงซื้อจากจีน ราคาทองคำอาจเคลื่อนไหวไปไม่ไกลนะ และอาจเริ่มมีการปรับฐาน โดยสถิติราคาทองคำภายหลังเทศกาลตรุษจีน 1 สัปดาห์ในช่วง 5 ปีย้อนหลังที่ผ่านมาพบว่า ราคาทองคำมักปรับตัวลง โดยราคาทองคำปรับตัวลง 4 ครั้งในปี 2561-2564 และราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพียง 1 ครั้งในปี 2565
การประชุมของเฟดครั้งแรกในปีนี้ในวันที่ 31 ม.ค.- 1 ก.พ. ซึ่งนักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ทั้งนี้ข้อมูล CME GROUP พบว่านักลงทุนให้น้ำหนักมากขึ้นกว่าเกือบ 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% มาสู่ระดับ 4.50%-4.75% เป็นสัญญาณชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อนแรงในปีที่แล้ว จากข้อมูลเงินเฟอที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยจากกราฟข้างล่างจะเห็นว่าตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐเริ่มปรับตัวลงนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2565 และเงินเฟ้อยังคงปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินเฟ้อในยูโรโซนเริ่มปรับตัวลดลงในเดือนพ.ย.2565
ทองคำอาจเกิดการพักฐานระยะสั้น แต่ยังน่าสนใจในระยะยาว
Gold Bullish
|
Gold Bearish
|
ทั้งนี้ การชะลอปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด จะส่งผลให้ราคาทองคำยังคงน่าสนใจ ซึ่งหากภายหลังเกิดการปรับฐานของราคาทองคำ ยังคงน่าเข้าซื้อทองคำสะสมไว้ นอกจากนี้ ราคาทองยังคงน่าสนใจในระยะยาวจากแรงหนุนความกังวลที่หนี้สหรัฐได้ชนเพดานที่ระดับ 31.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ซึ่งสภาคองเกรสสหรัฐจำเป็นต้องเร่งขยายเพดานหนี้อีกครั้ง ก่อนที่เม็ดเงินในมาตรการพิเศษของกระทรวจการคลังจะหมดลงก่อนต้นเดือนมิ.ย. เพื่อหลีกเลี้ยงการผิดชำระหนี้ หรือปิดหน่วยงานสหรัฐ ซึ่งจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเงินดอลลาร์ และเศรษฐกิจสหรัฐ และการที่จะผ่านมติในครั้งนี้อาจจะไม่ง่ายเลย เนื่องจากตัวแทนจากรีพับลิกันยินดีเห็นการปิดหน่วยงานภาครัฐ มากกว่าจะเป็นการเสียวินัยทางการคลัง ซึ่งนับว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ยังคงต้องติดตามต่อไป
ราคาทองคำสัปดาห์ที่ผ่านมาพุ่งขึ้นต่อเนื่อง สวนทางกับแรงซื้อที่ลดลง จึงคาดว่าระยะสั้นราคาทองคำเริ่มปรับฐาน จึงแนะนำให้เริ่มทยอยขายทำกำไร อย่างไรก็ตามในระยะยาวราคาทองคำยังคงน่าสนใจ แนะนำให้เข้าซื้อราคาทองคำ เมื่อราคาทองคำ spot ปรับลงมาเบริเวณ 1,870-1,880 ดอลลาร์ ส่วนสัปดาห์นี้สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจเดือนธ.ค. โดย conference Board ดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนม.ค. จีดีพีไตรมาส 4 ประมาณการครั้งที่ 1 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. ดัชนีราคาการใช้จ่ายด้านการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานเดือนธ.ค. ยอดทำสัญญาขายบ้านรอปิดการขายเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.ของม.มิชิแกน
ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,870-1,880 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 1,935 ดอลลาร์ และ 1,950 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 29,600 บาท และ 29,500 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 30,100 บาท และ 30,200 บาท
ธนรัชต์ พสวงศ์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มฮั่วเซ่งเฮง
ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์
• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD
———————————————————————
ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่
• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite
• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube
• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok
หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O