TNN online เกิดอะไรขึ้น! แห่ถอนคริปโตฯจาก “ไบแนนซ์” 1.9 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชม.

TNN ONLINE

Wealth

เกิดอะไรขึ้น! แห่ถอนคริปโตฯจาก “ไบแนนซ์” 1.9 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชม.

เกิดอะไรขึ้น! แห่ถอนคริปโตฯจาก “ไบแนนซ์” 1.9 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชม.

เกิดอะไรขึ้น! ยอดแห่ถอนคริปโตฯจาก “ไบแนนซ์” พุ่งแตะ 1.9 พันล้านดอลลาร์ภายใน 24 ชม. หลังระงับถอน USDC ชั่วคราว

วันนี้ (14 ธ.ค. 65) นานเซน (Nansen) บริษัทข้อมูลบล็อกเชนระบุเมื่อวันอังคาร (13 ธ.ค.) ว่า ไบแนนซ์ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีรายใหญ่ที่สุดของโลก เผชิญกับการแห่ถอนคริปโตฯ ถึง 1.9 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากที่ไบแนนซ์ประกาศว่า ได้ระงับการถอนเหรียญสเตเบิล USDC เป็นการชั่วคราว

 รายงานระบุว่า การถอนเหรียญคริปโตฯ 1.9 พันล้านดอลลาร์ดังกล่าวนับเป็นการถอนรายวันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย. โดยคิดเป็นสัดส่วนส่วนใหญ่ของเงินทุนที่ไหลเข้าตลอด 7 วันที่ผ่านมา

เมื่อวานนี้ ไบแนนซ์ประกาศว่า บริษัทได้ระงับการถอนเหรียญสเตเบิลคอยน์ USDC ขณะที่ดำเนินการสวอปเหรียญโทเคน เพื่อเปลี่ยนเหรียญสเตเบิลประเภทอื่น ๆ เช่น PAX หรือ BUSD เป็น USDC เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการถอน USDC ของนักลงทุน

"นักลงทุนแห่ถอนคริปโตฯ ออกจากไบแนนซ์สูงขึ้น เพราะความไม่แน่นอนที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับรายงานทุนสำรอง" โฆษกของนานเซนกล่าว

ขณะที่นายจ้าว ฉางเผิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของไบแนนซ์โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า "การถอนคริปโตฯ ครั้งนี้ถือเป็นเรื่องของธุรกิจตามปกติ วันนี้เราเห็นการถอนเงินสุทธิ 1.14 พันล้านดอลลาร์ แต่เราเคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน บางวันเราก็เผชิญการถอนสุทธิ บางวันเราก็เผชิญการฝากสุทธิ"

ส่วนโฆษกไบแนนซ์กล่าวว่า บริษัทมีทุนสำรองเพื่อรองรับการถอนเงินมากเกินพอเสมอ โดยสินทรัพย์ของผู้ใช้งานไบแนนซ์นั้นมีทุนสำรองในสัดส่วน 1:1 และโครงสร้างทุนของไบแนนซ์นั้นปลอดหนี้สิน

เมื่อถูกถามว่าไบแนนซ์มีเหรียญ USDC เพียงพอสำหรับให้นักลงทุนถอนหรือไม่ โฆษกไบแนนซ์ระบุว่า บริษัทอาจต้องโยกย้ายทุนจากกระเป๋าออฟไลน์ไปยังกระเป๋าออนไลน์ รวมถึงแปลงเหรียญสเตเบิลคอยน์ชนิดหนึ่งไปเป็นอีกชนิดหนึ่ง หรือปรับปรุงเครือข่าย ซึ่งบางครั้งก็ทำให้เกิดความล่าช้า

 อย่างไรก็ดี ไบแนนซ์ได้ออกมาประกาศผ่านทางทวิตเตอร์เมื่อเวลา 23.54 น.ของวานนี้ตามเวลาในไทยว่า ผู้ใช้งานสามารถกลับมาถอนเหรียญ USDC ได้ตามปกติดังเดิมแล้ว

 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัจจุบันบรรดาผู้ใช้งานและหน่วยงานกำกับดูแลด้านกฎระเบียบกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทแลกเปลี่ยนคริปโตฯ เช่น ไบแนนซ์ และเอฟทีเอ็กซ์ (FTX) ซึ่งเป็นคู่แข่งที่ปัจจุบันประสบปัญหาล้มละลาย ในการรับมือกับการฝากเหรียญคริปโทฯ ของลูกค้า โดยนายแซม แบงค์แมน-ฟรีด ผู้ก่อตั้ง FTX ได้ถูกสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ตั้งข้อหาฉ้อโกงนักลงทุนเมื่อวานนี้

ไบแนนซ์พยายามเรียกความเชื่อมั่นในสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยการโพสต์รายงานทุนสำรองที่จัดทำโดยมาซาร์ส (Mazars) ซึ่งเป็นบริษัทตรวจสอบบัญชีผ่านทางบัญชีทวิตเตอร์ โดยรายงานฉบับดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า ไบแนนซ์ถือครองบิตคอยน์ในจำนวนมากกว่าที่ลูกค้าฝากเอาไว้ในวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา

ภาพจาก  :  AFP 

ข่าวแนะนำ