สง่า บุญสงเคราะห์ จากทฤษฎีเรียนรู้หน้างาน กับการสร้าง 'Moshi Moshi' สู่ตลาดอินเตอร์

'Moshi Moshi' ร้านสินค้าไลฟ์สไตล์แบรนด์ไทยแท้ๆ ที่กำลังขยายตัวเต็มที่ ด้วยเวลาเพียง 5-6 ปี เริ่มต้นจากร้านขายสินค้าไลฟ์สไตล์เบ็ดเตล็ดเล็กๆ จนเห็นช่องทางเปิดเป็นช้อปสไตล์ญี่ปุ่น ที่ปัจจุบันมีสาขากว่า 100 แห่งทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด พร้อมทั้งกำลังนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยฝีมือการบริหารของ "สง่า บุญสงเคราะห์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI

"สง่า" เป็นผู้บริหารที่สร้างธุรกิจจากการเรียนรู้หน้างาน เขาดร็อปเรียน เพื่อเข้ามาช่วยกิจการค้าขายของครอบครัว และไม่ได้กลับไปเรียนต่อจนถึงปัจจุบัน

เขาเล่าว่า เริ่มธุรกิจจากร้านค้าปลีกกิ๊ฟช็อป และสินค้าเบ็ดเตล็ดทั่วไปเล็กๆ ย่านฝั่งธนบุรี เมื่อปี 2516 จนครอบครัวเห็นโอกาส จึงพัฒนาขึ้นมาเป็นร้านค้าส่งกิ๊ฟช็อป ก่อนจะขยายเป็นโรงงานผลิตสินค้ากิ๊ฟช็อป เสื้อผ้าและค้าส่งในสำเพ็ง ที่ขายทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ไปยัง สหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ซึ่งได้รับการตอบรับดีมากในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน

ด้วยความที่ทุ่มเวลาให้กับงาน ศึกษาตลาด และลงมือทำ ทำให้มองเห็นโอกาส ได้เห็นกระแสนิยมสินค้ากิ๊ฟช้อปของคนรุ่นใหม่ ผนวกกับเทรนด์ญี่ปุ่นที่วัยรุ่นไทยให้ความสนใจ "สง่า" จึงเปิดร้าน Moshi Moshi สาขาแรกที่สำเพ็ง เมื่อปี 2559 หลังจากศึกษาตลาดอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2557 และได้ขยายเป็น 91 สาขาในปี 2563…ซึ่งบอกเลยว่าไม่ง่าย

แรกๆ ที่เปิดช้อปและพยายามเข้าติดต่อกับศูนย์การค้า ที่เป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ของคนรุ่นใหม่ "สง่า" ถูกปฏิเสธ ด้วยเหตุที่ว่าเป็นแบรนด์โนวเนม คนยังไม่รู้จัก

"สง่า" แก้ Pain Point ด้วยการขยับไปเปิดสาขาที่ต่างจังหวัด และด้วยสินค้าสไตล์ญี่ปุ่น ดีไซน์น่ารัก คุณภาพดี ราคาจับต้องได้ คนจึงให้ความสนใจ จนทำให้เกิดกระแสนิยม จนห้างดังต้องติดต่อให้พื้นที่ในการเปิดข้อป นั่นจึงเป็นโอกาสให้ 'Moshi Moshi' ขยายสาขาเพิ่มต่อเนื่องจนครบ 100 สาขาไปเรียบร้อย ในปี 2565 นี่เอง

หลังจากนี้ "สง่า" ยังมีแผนขยายสาขาต่อเนื่องปีละประมาณ 20 สาขา เพราะ 'Moshi Moshi' มีสัดส่วนสาขาในศูนย์การค้าเพียง 15.8% ดังนั้น ยังมีพื้นที่อีกมากในการขยายตัว โดยเขายังมีแผนที่จะเปิดโมเดลสแตนอโลน พร้อมทั้งนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

การบริหารธุรกิจสินค้าไลฟ์สไตล์ นอกจาการการกระจายสาขาให้ครอบคลุมแล้ว สินค้าที่มีความโดดเด่นคืออีกหนึ่งหัวใจในการดึงลูกค้าเข้าร้าน เช่น การร่วมมือกับพันธมิตรซัพพลายเออร์ สร้างสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษ จากการออกแบบเอง เอ็กคลูซีฟเฉพาะที่ Moshi Moshi และยังมีสินค้าไลเซ่นส์ เช่น มิกกี้เม้าส์, ดิสนีย์, ซูมซูม, วีแบร์แบร์, วินนี่เดอะพูห์, สนูปปี้, ฮัลโหลคิตตี้ และจะมีสินค้าไลเซนต์คาแรคเตอร์ที่น่าสนใจใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติมทุกปี

"เราวางแผนที่จะวางจำหน่ายสินค้าใหม่มากกว่า 8,000 เอสเคยูในแต่ละปี และมีสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษทุกเดือน รวมทั้งยังมีร้านค้าปลีก-ค้าส่งภายใต้ชื่อ ไจแอนท์ จำหน่ายสินค้าทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวันในราคาเบาๆ เพ่ือรองรับความต้องการตลดาอย่างครอบคลุมด้วย"

จากวิธีการคิดที่ปิดช่องว่างตลาด ด้วยช่องทางการขยายทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ ครอบคลุมในแต่ละพื้นที่ พร้อมๆ กับศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการเห็นสินค้าใหม่ๆ ทุกครั้งที่เข้าร้าน และยังใช้วิธีการบริหารสต็อกสินค้า วางแผนการสั่งซื้อล่วงหน้าในจำนวนที่เหมาะกับคามต้องการของตลาด เหล่านี้ กลายเป็นจุดเข็งที่ทำให้ Moshi Moshi ขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และกำลังศึกษาตลาดเพื่อเตรียมพร้อมขายสู่ต่างประเทศ