TNN online ถึงเวลาคว้าหุ้นเทคฯจีน พาพอร์ตบินสูง รับอนาคตการลงทุน

TNN ONLINE

Wealth

ถึงเวลาคว้าหุ้นเทคฯจีน พาพอร์ตบินสูง รับอนาคตการลงทุน

ถึงเวลาคว้าหุ้นเทคฯจีน พาพอร์ตบินสูง รับอนาคตการลงทุน

วันนี้ หากให้คุณเลือกสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิต แน่นอนว่า หนึ่งในนั้นจะต้องมีสินค้าเทคโนโลยี อยู่ในลิสต์ของคุณ และนี่คือคำตอบที่ชัดเจนว่า ‘เทคโนโลยีสำคัญกับคุณมากแค่ไหน’

มองในมุมของโลกแห่งการลงทุน ก็เห็นภาพที่ชัดเจนเช่นกันว่า ธุรกิจที่เกี่ยวกับ เทคโนโลยีล้วนมีอนาคต มีแนวโน้มที่จะเติบโตได้สูงอย่างแน่นอน

แล้วโอกาสการลงทุนหุ้นเทคโนโลยีอยู่ตรงไหนบ้าง ผมจะเล่าให้ฟังครับ



@ จีน เร่งสปีดอุตสาหกรรมเทคโนโลยี มุ่งสู่เป้าหมายมหาอำนาจโลก

ประเทศแรกๆ ที่ทุกคนนึกถึงเจ้าเทคโนโลยีโลก คือ ‘สหรัฐอเมริกา’ ที่เป็นผู้นำอุตสาหกรรม เทคโนโลยีอันดับหนึ่งมานานหลายสิบปี

แต่มีอีกประเทศหนึ่งที่กำลังเข้ามาโค่นบังลังก์ เรียกว่าเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็คือ ‘จีน’ ที่เร่งสปีดขึ้นมาจนมีเทคโนโลยีบางด้านแซงหน้าสหรัฐฯ ไปแล้ว จนทำให้หุ้นเทคโนโลยีของจีน มีความน่าสนใจลงทุนมาก สำหรับผู้ที่ต้องการจะลงทุนในหุ้นเติบโต และมุ่งเน้นไปใน อุตสาหกรรมเทคโนโลยี



แม้ว่ากว่าหนึ่งปีเศษที่ผ่านมานี้ หุ้นเทคโนโลยีจีนจะร่วงรุนแรง นับตั้งแต่ที่รัฐบาลจีนปฏิบัติการ ‘ช็อกโลก’ ด้วยการสั่งระงับแผน IPO บริษัทฟินเทค Ant Group ในเครืออาลีบาบาของมหาเศรษฐี ‘แจ๊ค หม่า’ ที่วางแผนจะระดมทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปีที่แล้ว



ปี 2564 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของฝันร้ายที่บริษัทเทคโนโลยีจีนต้องฟันฝ่ามาตลอดถึงปีนี้ เพราะรัฐบาลจีนยังไล่เช็คบิลบริษัทเทคโนโลยีน้อยใหญ่และอุตสาหกรรมอื่นๆ ราว 50 แห่ง อย่างไม่กลัวเกรงใครใหญ่แค่ไหน สาเหตุที่รัฐบาลจีนเข้ามาควบคุมบริษัทบิ๊กเทค เพราะต้องการให้ประเทศเติบโตอย่างมั่นคง ลดการผูกขาดและลดทอนอำนาจของแต่ละบริษัท และตามมาด้วยการออกและข้อบังคับต่างๆ ของรัฐบาลจีน เพื่อให้บริษัทบิ๊กเทคฯ จีนแบ่งปันความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีให้บริษัทเทคโนโลยีเล็กๆ ในจีนด้วย ซึ่งจะส่งผลให้ อุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีนเติบโตได้อย่างมั่นคง และไม่ผูกขาดอยู่เพียงแค่บางบริษัทเท่านั้น



แต่ในช่วงเวลานั้นนักลงทุนต่างมองว่า การจัดระเบียบการทำธุรกิจที่เกี่ยวกับ อุตสาหกรรมเทคโนโลยี จะสร้างข้อจำกัดการเติบโตของบริษัทต่างๆ ให้ช้าลงกว่าที่ควรจะเป็น กลายเป็นว่านักลงทุนทั่วโลกต้องจำใจหันหลังให้กับหุ้นเทคโนโลยีจีน



น้อยคนนักจะรู้ความจริงเบื้องหลังที่รัฐบาลจีนเข้ามาจัดระเบียบวงการเทคโนโลยีจีน ก็เพื่อต้องการวางรากฐานการพัฒนาประเทศให้แข็งแกร่ง ตามแผนพัฒนาประเทศ 5 ปี ฉบับที่ 14 สำหรับปี 2564 – 2568 ซึ่งจะมีความพิเศษกว่าฉบับอื่นๆ เพราะเป็นแผนที่ถูกร่างขึ้นในช่วง สถานการณ์ Covid-19 ที่จีนรับรู้ถึงศักยภาพทางเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ของตัวเองแล้ว เป็นแผนที่เกิดขึ้นหลังสงครามการค้าจากสหรัฐฯ และเกิดขึ้นในปีเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปีของพรรคคอมมิวนิสต์จีนพอดี


การเล่นใหญ่ของจีนในช่วงกว่า 1 ปีที่ผ่านมา ก็เพื่อต้องการก้าวขึ้นสู่ ‘มหาอำนาจของโลก’ ให้จงได้

นี่คือสิ่งที่จีนรอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ตัวเองได้หว่านเอาไว้ในระยะยาว หากมองย้อนกลับไป ก่อนหน้านี้ในปี 2560 จีนเคยประกาศไว้แล้วว่า จะให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรม และเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งจีนก็ได้เดินมาตามเป้าหมายอย่างต่อเนื่องถึงวันนี้



@ เปิดเส้นทางอุตสาหกรรมจีนทะยานสู่ผู้นำโลกใน 2 ปี

แม้ในช่วงเวลานี้ หุ้นจีนยังคงมีความผันผวน แต่ถ้ามองภาพรวมคุณจะเห็นอย่างชัดเจนว่า ‘รัฐบาลจีนให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างเต็มที่’

และอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ นั่นคือ เมื่อไม่นานมานี้ หลังทางการจีนให้คำมั่นว่าจะกระตุ้น การบริโภคและยุติการจัดระเบียบธุรกิจให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เป็นวันแรกที่จีนออกนโยบาย สนับสนุนหุ้นเทคโนโลยีอีกครั้ง และดัชนีที่รวบรวมหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของจีนอย่าง Hang Seng TECH Index ก็พุ่งกว่า 5.8%



การผ่อนคลายแรงกดดัน ทำให้หุ้นเทคโนโลยีจีน กลับมาติดจอเรดาห์นักลงทุนทั่วโลกอีกครั้ง

สภาพแวดล้อมของจีนเอื้อให้บริษัทเทคโนโลยีเติบโตได้ง่าย เริ่มด้วยจำนวน ประชากรที่ได้เปรียบประเทศอื่น บางมณฑลของจีนมีจำนวนประชากรสูงกว่าประชากร ในบางประเทศเสียอีก 


ข้อได้เปรียบนี้ส่งผลดีกับบริษัทสตาร์ตอัปที่เน้นการขยายฐานจำนวนผู้ใช้ (User Base) อย่างมาก เพราะคนจีนกว่า 1,032 ล้านคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และจีนก็มีผู้ใช้สมาร์ตโฟนกว่า 953 ล้านคนและกำลังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง



จีนยังมีสิ่งที่ล้ำหน้าไปกว่านั้น คือ จีนมีโครงข่ายเสาสัญญาณ 5G มากที่สุดในโลก ทำให้จีนมีฐานการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้เปรียบประเทศอื่น หากนับรวมสินค้าหมวด เทคโนโลยีที่หลายแบรนด์ของจีนต่างพาเหรดกันขึ้นเป็นผู้นำตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น Huawei ZTE Xiaomi DJI Lenovo และ Oppo ก็ล้วนเป็นแบรนด์ที่ทั่ว โลกรู้จักและใช้กัน


นอกจากนี้ จีนมีกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีจีนใหม่ๆ เป็นผู้เล่นที่แข็งแกร่งในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็น Alibaba Tencent และ Bytedance เจ้าของแพลตฟอร์ม TikTok พร้อมอัลกอริทึมแนะนำวิดีโอที่สุดแสนจะแม่นยำ และมีผู้ใช้งานจากทั่วโลก



จีนยังมีบริษัทสตาร์ตอัปที่นำเทคโนโลยีเชิงลึกมาพัฒนาสินค้าและบริการอีกหลายราย ในปัจจุบันมีบริษัทสตาร์ตอัประดับ Unicorn ที่มีมูลค่ากิจการสูงกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอยู่มากถึง 312 บริษัท และมี Venture Capital ลงทุนในจีนสูงถึง 130,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีของจีน

ถือว่าเป้าหมายของประธานาธิบดี Xi Jinping ที่ให้ความสำคัญเรื่องนวัตกรรมและเทคโนโลยี มากขึ้น ประสบความสำเร็จอย่างไม่มีข้อกังขา



นอกจากแผนพัฒนาประเทศฉบับที่ 14 แล้ว จีนยังมีนโยบาย Made in China 2025 ที่พร้อม ผลักดันให้จีนเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตแทนที่การผลิตสินค้าคุณภาพต่ำเหมือนในอดีต และยังมีการระบุว่าจะเพิ่มงบประมาณการวิจัยและพัฒนาอย่างน้อย 7% ต่อปี ซึ่งในปัจจุบัน จีนมีงบประมาณด้านการวิจัยและพัฒนาสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสหรัฐฯ เท่านั้น



และหากคุณติดตามการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานาธิบดี Xi Jinping สมัยที่ 3 ในงานประชุมผู้ แทนระดับชาติแห่งพรรคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 เมื่อไม่นานมานี้ จะพบคำว่า ‘เทคโนโลยี’ ถูกพูดถึงบ่อยและถี่มากขึ้นกว่าการประชุมทุกครั้งที่ผ่านมา สะท้อนความพยายามของจีนที่ พร้อมดันเทคโนโลยีของตัวเองขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของโลกให้จงได้

 


อีกหนึ่งนโยบายที่ฮือฮา จีนยังได้ออกนโยบาย ‘เทคโนโลยีคลาวด์แห่งชาติ’ ที่ให้หน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจใช้งานมากขึ้นเพื่อพัฒนาประเทศ ซึ่งเทคโนโลยีคลาวด์ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อหน่วยงาน และการทำงานต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และจะช่วยดันเศรษฐกิจจีนให้เติบโต และก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง



การทุ่มเทสรรพกำลังทั้งกำลังเงิน กำลังคน และการสนับสนุนจากภาครัฐในการ พัฒนาเทคโนโลยีจีนอย่างจริงจัง ทำให้บริษัทเทคโนโลยีของจีนเติบโตโดดเด่น จนก้าวขึ้นมาเทียบชั้นยักษ์ใหญ่อย่างสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ได้ในเวลาอันใกล้ 2 ปีนี้ เป็นผลลัพธ์ที่ งอกงามดี เพราะจีนมีทั้งเทคโนโลยีประเภท Soft-Tech และประเภท Hard-Tech

เวลานี้ จีนก็เป็นผู้นำเทคโนโลยีในบางด้านของโลกแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ รถยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด ด้วยความได้เปรียบทางด้านจำนวนประชากร และการสนับสนุนจาก ภาครัฐที่เห็นถึงความสำคัญในอุตสาหกรรมนี้



แม้ว่าที่ผ่านมา เส้นทางการเติบโตของเทคโนโลยีจีนอาจต้องเจอกับอุปสรรคต่างๆ ทั้งในประเทศและนอกประเทศ แต่กลยุทธ์และแผนการอันรัดกุมของจีนจะทำให้ ช่วงเวลาแห่งการเติบโตทอดยาวและสดใสกว่าที่คุณคุ้นเคย



@ สแกนหุ้นเทคฯ จีนที่น่าลงทุน ติดปีกพอร์ตบินสูง

และหากมองความผันผวนของหุ้นเทคโนโลยีจีนที่ได้รับผลกระทบในช่วงที่ผ่านมานั้น จะพบว่า ส่วนใหญ่ประเภทหุ้นที่ได้รับผลกระทบจะเป็นหุ้น Soft-Tech มากกว่า เพราะหุ้นประเภทนี้จะ จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกงหรือสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก (ถือว่าอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์จีน) ส่วนหุ้น Hard-Tech จะอยู่ในตลาดหุ้น A-Share จะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก



ถ้าดูผลตอบแทนย้อนหลัง 3 ปี จะเห็นว่าผลตอบแทนของตลาดหุ้น เซินเจิ้นและเซียงไฮ้ ไม่ได้ลดลงมาก ยังอยู่ที่ 18% และ 13.83% ตามลำดับ สะท้อนว่าการควบคุม ของรัฐบาลจีน ไม่ได้กระทบหุ้นเทคโนโลยีจีน A-Share มาก



คุณน่าจะมองเห็นศักยภาพของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีจีนมีโอกาสเติบโตสูงมาก ด้วยจำนวนผู้ใช้ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกว่า 77% จะทำให้รายได้ของบริษัทเทคโนโลยีต่างๆ พุ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด ทำให้โอกาสในหุ้นเทคโนโลยีจีนจะมีอยู่ตลอด และธุรกิจต่างๆ ได้ปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างยอดเยี่ยม แน่นอนว่า เมื่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีในจีนมีโอกาสเติบโตมาก ก็ย่อมต้องมีการแข่งขัน สูงในตลาดนี้จากจำนวนผู้เล่นที่เข้ามามากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ



หากคุณมองเห็นโอกาสเติบโตของ ‘หุ้นเทคโนโลยีจีน’ และอยากเข้าลงทุน แต่เริ่มต้นไม่ถูกเลือก หุ้นไม่ได้หรือไม่รู้จะลงทุนได้ที่ไหน ผมมีเครื่องมือช่วยการลงทุนของคุณให้ง่ายขึ้น เพียงคุณเข้าไปดูข้อมูลต่างๆ ในแผน ‘Jitta Ranking หุ้นเทคโนโลยีจีน’ ที่ช่วยรวบรวม ‘หุ้นเทคโนโลยีจีนน่าลงทุน มีโอกาสเติบโตสูง’ ซึ่งจะมีการใช้ AI ในการคัดกรองหุ้นจีนประเภท A-share ของบริษัทเทคโนโลยีที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ (SSE) และเซินเจิ้น (SZSE) เพื่อคัดเลือก’หุ้นดี ราคาถูก’ มาให้คุณลงทุน และถ้าดูผล Backtest ย้อนหลัง 10 ปี ในหุ้นเทคโนโลยีจีนจะพบผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 19.02% ต่อปี ชนะดัชนีอยู่ถึง 10% ต่อปี ซึ่งตอนนี้ยังเป็นแค่จุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีจีน ถึงเวลาลงทุนแล้วโดยเฉพาะหุ้นกลุ่ม Hard-tech



หุ้นที่ Jitta เลือกมาใน 20 อันดับแรกอาจไม่ใช่หุ้นพิมพ์นิยม คุณอาจจะไม่รู้จัก แต่ถ้าคุณได้เห็นงบการเงินจะประทับใจแน่นอน ซึ่งหุ้นเทคโนโลยีจีน 20 อันดับแรกของ Jitta Ranking ในเดือนตุลาคม 2565 แบ่งเป็นหลายอุตสาหกรรม เช่น โลจิสติกส์ IoT อิเล็กทรอนิกส์ บริการสุขภาพ และเซมิคอนดักเตอร์ จะเป็นหุ้น Hard-tech เป็นส่วนใหญ่

ผมขอยกตัวอย่างบริษัท เช่น บริษัท Chi Three Gorges เป็นบริษัทพลังงานหมุนเวียนมี ผลดำเนินงานเติบโตกว่า 20%ต่อปีในช่วงสามปีที่ผ่านมา บริษัท Beijing Wantai ผู้คิดค้นและจัดจำหน่ายชุดตรวจวินิจฉัยโรคติดเชื้อและวัคซีน เช่น Covid-19 โรคเอดส์ ที่ผลดำเนินงานออกมาเติบโตดี บริษัท Joinn ซึ่งก่อตั้งอยู่ในแผนพัฒนาอุตสาหกรรมยาแห่งชาติ เป็นผู้ให้บริการด้านการทดลองในขั้น Pre-clinic มีห้องทดลองทั้งในจีน สหรัฐฯ และต่างประเทศ เป็นต้น คุณสามารถเข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ฟรีใน Jitta.com หรืออ่านเนื้อหาที่น่าสนใจได้ที่นี่ https://jitta.co/3hzgEYA



ผมหวังว่า คุณจะคว้าโอกาสลงทุนหุ้นเทคโนโลยีจีน เพื่อช่วยให้เงินลงทุนเติบโตได้ในระยะยาว นำพาพอร์ตของคุณให้บินสูงไปกับเส้นทางการเป็นมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีของโลกในอนาคตของพญามังกร ‘จีน’



ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์

CEO Jitta Wealth



ติดตามข่าวหุ้นและการลงทุนทางไลน์

• Line @TNNWEALTH : https://bit.ly/3tCKmiD

———————————————————————

ติดตาม TNN Wealth ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้ที่ 

• Website : https://bit.ly/TNNWealthWebsite

• Youtube : https://bit.ly/TNNWealthYoutube

• TikTok : https://bit.ly/TNNWealthTikTok

 

หรือดูรายการ Live ได้ทาง https://bit.ly/3HmUu4O

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวแนะนำ